past existence
อดีตชาติคือความเชื่อที่มีอยู่ในเกือบทุกศาสนาและพิสูจน์ได้ยากแต่ใช่ว่าจะไม่มีผู้ใดที่พยายามพิสูจน์มัน
เมื่อรู้แล้วจะทำเช่นไรต่อนั้นขึ้นอยู่กับแต่ล่ะบุคคลเหมือนกับ “ศ. ปรวีร์ สุมนา” นักโบราณคดีวัย 48 ปี นักวิชาการผู้ทุ่มเทแก่วัฒนธรรมโบราณแห่งออซ์ฟอส
เมืองโอเอซิสกลางทะเลทรายและยังเป็นประเทศปิดในปัจจุบัน
สิ่งที่โลกภายนอกรับรู้กันมีเพียงยังใช้การปกครองแบบราชาธิปไตย
เนื่องด้วยต้นตอประวัติศาสตร์ทุกอย่างมาร่วมไว้ที่อาณาจักรนี้การสำรวจนั้นที่จะทำได้คงมีเพียงสำรวจบริเวณรอบนอกเท่านั้น
ฝีเท้าสม่ำเสมอของอูฐ ขบวนสำรวจทั้งหมดรวม 8 คน โดยมีตัวเขาเป็นหัวหน้าผมสีดอกเลาพัดพลิ้วไหวตามแรงลมดวงตาสีเทาภายใต้แว่นกรอบโลหะสีเงินมองเต็นท์จุดหมายที่อยู่ไม่ไกลนัก
“เร่งกันหน่อยเร็ว”
.
.
.
เหล่าคณะเร่งลงสำรวจทันทีที่เท้าแตะลงพื้นศ.เดินไปสมทบกับศิษย์โบราณคดีทั้งสอง
หนึ่งคือหนุ่มไฟแรงหน้าตาคมสัน “ทิธิติหรือเก้า” มาดดุๆนั้นขัดกับนิสัยยกตัวอย่างเช่น
ตัดสินใจตัดผมสั้นเพียงเพราะรำคาญเวลาการทำงานและแถมยังเป็นคนเอาการเอางานมากๆ
อีกหนึ่งคือสาวแกร่งขาลุยที่ถ้าไม่ติดว่ามีแฟนหนุ่มแล้วคงทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นทอมได้ง่ายๆเลย
”ชาคริยาหรือชา”
“ศ.ค่ะ
เราพบสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเลยค่ะ” ชาคริยาเดินนำไปยังโต๊ะที่มีดาบวางอยู่ผ่านหลุดขุดค้นที่มีเก้าเป็นหัวหน้าขุดโครงกระดูกร่างหนึ่งอยู่
ความสนใจกลับมายังดาบที่ยังคงวาววับในหลายส่วนและวางอยู่และด้ามดาบที่ยังคงรักษาลวดลายอันงดงามไว้
ความรู้สึกคุ้นเคยประดังเข้าสู่จิตใจของปรวีร์แต่ก็ได้แต่เพียงแป๊ปเดียวเท่านั้น
“ลักษณะตัวดาบเป็นแบบที่นิยมเมื่อ
7,500 ปีก่อนและยังทันสมัยเรื่องชุบตัวดาบกันสนิมอีกด้วย
ฉันมั่นใจว่าอีกไม่นานเราจะสามารถระบุตัวตนของบุคคลปริศนาผู้นี้ได้”
สองอาจารย์และศิษย์ไม่รอช้าที่จะมุ่งตรงไปช่วยหนุ่มไฟแรงขุด
ไม่นานโครงกระดูกนั้นก็ขึ้นมาให้ยลโฉมกัน ร่างนั้นสวมเสื้อสีหม่นเปื้อนด้วยคราบเลือดเก่าทับเกราะอ่อนที่มีธนูปักอยู่มากมายและอีกหลายแห่งของกระดูกมีรอยร้าว
ท่าสุดท้ายของบุคคลผู้นี้นอนตะแคงโดยมีมือข้างหนึ่งกำบางสิ่งไว้ปรวีร์ค่อยๆคายมือนั้นและพบกับแหวนวงหนึ่ง
“เรบรอฟ
รัก ยูริ ดุจชีวี”
ปรวีร์อ่านออกเสียงแปลให้ศิษย์ทั้งสองที่ยังไม่แกร่งในภาษาออซ์เฟียนิส
“โรแมนติกจังเลยอ่าศ.”
“ผมว่าคงจบแบบbad endน่าดู”
“ศ.ครับ
จะยกร่างขึ้นเลยไมครับ”
“ผมขอตรวจสอบอีกสักพักนะ
ทั้งสองช่วยตรวจสอบรอบๆทีนะ ผู้คาดว่าคงจะเจอกับธนูได้อีกแน่นอน” ทั้งสองพยักหน้ารับคำสั่งส่วนตัวเขาหันกลับมาสนใจกับร่างตรงหน้าความรู้สึกดีใจ
ร้อนรน เศร้าโศกและโกรธแค้นประดังเข้ามาไม่ขาดสายร่างตรงหน้านั้นสิ่งที่เขาต้องฝันถึงทุกคืนมาตั้งแต่อายุ
10 ขวบ ในแต่ล่ะคืนคือชีวิต 1
วันของคนตรงหน้าและเรื่องราวนั้นได้จบลงตอนเขาอายุได้ 29 ปี
นับจากนั้นคือฝันฉากเดิมๆของวันที่ได้สัญญากับคนที่ตนได้รักมากที่สุด
.
.
.
.
“ในสุดก็ได้พบกันตัวฉันในอดีต”