Fic ไขลานที่หยุดนิ่ง [ยักษ์กินอ๊อด] ตอนพิเศษ1
Fic 9 ศาสตรา [ไขลานที่หยุดนิ่ง]
Pairing: ยักษ์กินอ๊อด/ทมิฬติดพันธ์
Reta: R-15(มั้งนะ)
#คือเนื้อเรื่องจะต่อจากตอนจบในเรื่องนะจ๊ะ คืออินมากจนแต่งอ่าาาา
……………………………………………………………………………………………………
สายลมพัดเอื่อยๆ เกลียวคลื่น แมกไม้ส่งเสียงเซ็งแซ่ กลิ่นไอแดดและทะเลปะทะเข้ากับจมูกสันโด่ง แดดยามสายส่องปะทะกับร่างสูงวัยสันทัดนั่งขะมักเขม้นอยู่ที่ระเบียง มือกร้านจากการจับดาบทำศึกนั้นกำลังไถ่ใบมีดแกะสลักไม้เป็นเหล่าสรรพสัตว์ สายตาคมเหลือกเห็นร่างสีม่วงเทาได้จากไกลๆ สองมือวางอุปกรณ์ลงจัดแจงเตรียมของลงกระด้ง ร่างอันไม่มั่งคงลุกขึ้นมุ่งหน้าเข้าไปในเรือน
“ ท่านพันธ์ ท่านอยากกินปลาอะไรระหว่าง กะพงขาวกับกระโทง “ บากวางปลาใหญ่ทั้งสองนี่ยังไม่รวมเหล่าปลาเล็กยิบย่อยอีกเกือบสิบตัว
“ คราวนี้ข้าให้เอ็งเลือก รับหน่อย “ จมื่นส่งขันน้ำให้อีกฝ่าย
ตอนนี้เป็นเวลา 2 ปีแล้วที่บุรุษทั้งสองอาศัยอยู่ในเรือนเดียวกันและอีก 1 ปีที่มีอ๊อดอยู่ด้วย พรานทมิฬจะเป็นฝ่ายค่อยล่าปลาและสัตว์ต่างๆกับอ๊อดที่ค่อยดูแลเรื่องต่างๆในเรือนและหาสมุนไพรแต่เมื่อมีเรื่องที่ไม่คาดคิดนั้นเกิดขึ้น ทำให้หน้าที่ส่วนใหญ่กลายเป็นของพรานโดยปริยายแต่ก็มีบางครั้งที่จมื่นลุกขึ้นมาจัดการเอง ส่วนครูมวยนั้นหลังจากเหตุการณ์บุกของยักษาในครั้งนั้นก็รอดมาด้วยกันในสภาพสะบักสะบอมแต่ครูช่างบุญน้อยนักมิได้อยู่ดูความสำเร็จของศิษย์ของตน
“ ข้าอยากกินแกงเหลืองฝีมือท่าน “ น้อยครั้งที่พรานจะเอ่ยปากอยากกินอะไรเป็นพิเศษและมักแถมมาด้วยแขนพิเศษทุกครา อาจเป็นเพราะความบังเอิญหรือลางสังหรณ์จมื่นเองก็ไม่มั่นใจนัก
“ เอ็งคิดว่ารอบนี้ใครจะมา “
“ ข้าคิดว่าอาจจะเป็นอ๊อดก็เป็นได้นะ “ จมื่นรับขันน้ำกลับคืนและเดินกลับเข้าไปในเรือนโดยมีบากเดินหิ้วปลาตามเข้าไป ทั้งสองทำหน้าที่ของตนเองกันอย่างคล่องแคล่วบากชำแหละเอาเครื่องในปลาทั้งหมดออก ขอดเกล็ด แบ่งส่วนไว้ 3 ส่วน กิน แลกและตากแห้งไว้กิน เมื่อแยกเรียบร้อยจึงนำกะพงมาสับเป็นชิ้นใส่จานดินเผาลุกเดินไปยังจมื่นพันธ์ที่นั่งหั่นเตรียมเครื่องต่างๆ
“ ให้ข้าช่วย “ บากวางจานลงสวมกอดร่างเล็กกว่าจากด้านหลังอย่างออดอ้อน
“ เอ็งไปพักเถอะ บาก เอ็งตื่นตั้งแต่ไก่โห่ แค่นี้ไม่ได้หนักหนาหรอ “ ถึงจะเอ่ยปากไล่แต่เผ่าทมิฬคนนี้กลับไม่ที่จะล่ะไป ซ้ำยังแย่งมีดจากมือด้วย
“ ข้าจะหั่นให้ ท่านไปเตรียมตั้งหม้อเถอะ “ จมื่นยอมจำนนแต่โดยดีละไป
ทั้งสองจัดเตรียมอาหารเสร็จก็ล่วงไปจนเที่ยงสองมือยกสำรับไปวางนั่งกินกันที่แคร่ตรงระเบียบบ้าน บรรยากาศความอบอุ่นของทั้งคู่อยู่ในสายตาของเด็กหนุ่มสีน้ำผึ้งผ้าคลุมสีหม่นพริ้มสะบัดสองมือหอบสัมภาระมาเต็ม
“ พ่อจ๋า พี่บาก ฉันกลับมาแล้วจ๊ะ “ เสียงเจื้อยแจ้วสดใสเอ่ยทักทั้งสองคนเรียกสายตาไปทางต้นเสียงความปริ่มเปรมในใจของทั้งสามคน เสียงการถามไถ่การเดินทางตลอดเวลาที่ร่วมวงทานอาหารกัน
“ พ่อจ๊ะ ตอนฉันไปที่เมืองของอสูรสีชาด ฉันเอาสมุนไพรดีติดมาด้วยจ๊ะ เห็นว่ามีสรรพคุณช่วยขาของพ่อด้วยนะจ๊ะ “ อ๊อดหยิบห่อใบตองสู่สายตาอีกสองคน
“ พ่อจ๊ะ เดี๋ยวฉันไปต้นมาให้นะ พ่อจะได้แข็งแรงๆ “ ยังไม่ทันที่จมื่นเอ่ยคำใดๆอ๊อดกุลีกุจอวิ่งไปครัวก่อเตาตั้งไฟโดยมีบากเป็นลูกมืออยู่ข้างๆ คนเป็นพ่อได้แต่มองอยู่ห่างๆ
‘ อย่างน้อยเอ็งก็ยังยิ้ม อ๊อด ‘
ร่างสูงวัยมองลูกบุญธรรมด้วยความรู้สึกที่หลากหลายสลับปนเปกัน ทั้งดีใจที่แวะเวียนกลับมาเยี่ยมเยียนเจอกัน ความเวทนาในชะตาของเจ้าตัว ความรู้สึกผิดที่เป็นอีกหนึ่งคนที่ผลักดันในลูกคนนี้ต้องกลายเป็นสิ่งที่ผิดแปลกไปจากธรรมชาติ สมเพชตนเองที่ช่วยอะไรใครไม่ได้สักคน สิ่งที่ทำให้ได้คงมีเพียงอธิษฐานให้อย่างน้อยลูกบุญธรรมของเขาคนนี้ได้เจอคนเคียงข้างดังตนในตอนนี้ ตัวเขาไม่มั่นใจนักที่จะบอกความความสัมพันธ์ของตนเองกับผู้อาศัยร่วมกัน ความสัมพันธ์อันเกินเลยอย่างไม่อาจย้อนกลับไป ปัดอดีตที่เจ็บปวดทิ้งล่ะทิฐิลงโอบกอดรับความอบอุ่นสู่จิตใจและร่างกาย
“ พ่อจ๊ะ ยาเสร็จแล้วจ๊ะ “ เสียงเรียกปลดภวังค์ของเขาออก จ้องมองลงไปยังหม้อยาใบเดิมน้ำสีน้ำตาลขุ่นชวนขมวดคิ้วลองตักจิบเพียงนิดเดียวรสขมเฝื่อนกระจายทั่วปาก หากแต่เป็นเรื่องปกติของยาเพียงทนๆเอาหน่อยไม่นานก็หมดหม้อ ร่างกายเริ่มขับเหงื่อมากกว่าปกติที่ควรจะเป็น โลกรอบตัวมึนเคว้งอย่างจับจ้องไม่ได้ น้ำหนักตัวทิ้งลงอย่างควบคุมไม่ได้สู่โอบกอดอันคุ้นเคย
“ มันจะได้ผลแน่หรอ อ๊อด “
.
.
.
.
.
.
.
10 วันผ่านมา
ตลอดสิบวันบากและอ๊อดช่วยกันเฝ้าชายสูงวัย จริงๆแล้วยาสมุนไพรนั้นเป็นยาลับของแม่มดขาวในนครคีรีกัณฑ์ที่ช่วยการตั้งครรภ์ของสตรีที่มีบุตรยากหรือเป็นบุรุษที่อยากมีลูกโดยที่ไม่มีภรรยา ยาตัวนี้ปรับสภาพร่างกายให้เหมาะกับการมีบุตรซึ่งแลกกับต้องมีไข้สูงตลอด 10 วัน
“ ท่านพันธ์ ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง “ เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆปรือขึ้นสีหน้าเป็นห่วงของพรานทมิฬคือสิ่งแรกที่เห็น ร่างกายค่อยๆโดนพยุงขันน้ำเย็นฉ่ำส่งเข้าใกล้ๆปากน้ำไหลลงคอบรรเทาความแห้งผากได้อย่างดี
“ ข้าเป็นไข้นานเท่าไร “
“ 10 วัน “
“ 10 วัน!!! “ จมื่นตกใจสุดขีดในชีวิตของเขามีเพียงสองครั้งเท่านั้นที่ล้มหมอนนอนเสื่อยาวนานขนาดนี้ความสงสัยประดังเข้ามาและลางสังหรณ์บอกว่าคนตรงหน้ารู้ว่ายาที่กินคือยาอะไร
“ เจ้ารู้ใช่ไมอ๊อดเอาอะไรให้ข้ากิน “
“ ข้ารู้ มันเป็นยาที่จะทำให้ท่านมีบุตรได้ “ มือยาวลูบไปที่หน้าท้องแร่งที่เต็มไปด้วยกล้าม
“ เราโตๆกันแล้วนะบาก “
“ ใช่ แล้วข้าก็พิสูจน์แล้วด้วย ท่านมีสิ่งที่สตรีมี “ ด้วยคำพูดนี้คนเพิ่งหายไข้รีบปลดผ้านุ่งออก สิ่งสงวนยังอยู่
“ เอ็งหลอกข้า “
“ ข้าพูดจริง เพียงแค่ท่านไม่เห็นต่างหาก “ มือยาวเลื่อนลงแตะบริเวณสงวนไล้ลงผ่านก้อนทั้งสองแตะลงที่กลีบทั้งสอง สัมผัสประหลาดในพื้นที่ที่ไม่เคยมีอยู่สร้างความแตกตื่นอย่างยิ่ง
“ อะไร ตรงนั้นมันอะไร ขะ ข้าไม่เคยมีมัน ”
“ ไม่นานท่านจะรู้เอง “ นิ้วยาวกดลงผ่านกลีบเข้าไปความซาบแล่นริ้วเรียกเสียงครางลั่น ร่างเกร็งทั้งตัวปากอ้าพยายามโกยอากาศเข้าไป
“ ท่านพันธ์ ท่านอยากได้บุตรหรือธิดา “ บากเปลี่ยนตำแหน่งนั่งปัดผ้าห่มออกให้พ้นทางสอดตัวตรงกลางยกขาอันอ่อนแรงให้อ้าออกเผยแก่นที่อ่อนตัวถัดลงนั้นคือกลีบชมพูเรื่อๆ
“ ข้า.....อยากได้บุตรมากกว่า “ คำตอบนั้นเรียกรอยยิ้มบางๆของอีกฝ่าย ทั้งสองโอบกอดกันแลกจุมพิตอันลึกซึ้ง ลิ้นร้อนเกี่ยวพันอย่างไม่ยอมให้กันผลัดกันรุกล้ำ สะโพกขยับสีกันเพิ่มแรงกำหนัดให้พุ่งโดยไม่สนใจกันว่างมีหนึ่งคนเพิ่งจะฟื้นไข้
“ ครั้งแรกของท่านข้าจะทำเบาๆ “ สองมือเขี่ยเจ้าตุ่มไตชูเด่นอย่างเอาใจ สะโพกก็ขยับสีส่วนสงวนกันไปมา มือข้างหนึ่งละลงมาเตรียมความพร้อมในด้านล่าง ความเปียกแฉะคืออย่างแรที่สัมผัสได้ตามด้วยความนุ่มที่มากกว่ายามปกติที่ได้ทำกัน
“ บาก อย่าโดนตรงนั้น “ จมื่นร้องห้ามยามเมื่อนิ้วไปสะกิดติ่งเม็ดด้านบน ใช่ว่าตัวคนด้านใต้จะไม่รู้ว่าที่โดนไปมันคือจุดไหนของสตรีและใช่ว่าคนด้านบนจะไม่เคยมีสังวาสกับสตรีมาก่อน ทั้งคู่รู้ดีถึงขั้นต่อไป
“ ท่านพันธ์ หายใจลึกๆ ช้าๆ “ บากพูดพร้อมกับแก่นกายอันใหญ่โตทั้งยังมีปุ่มเรียงกันเป็นแนวยาวอยู่ด้านล่างค่อยๆสอดเข้าหาความอบอุ่นด้านใน แรงบีบรัดและเสียดสีทำความอดกลั้นแทบขาดสะบั้น บากค่อยๆสอดอย่างช้าๆจนรู้สึกชนเข้ากับบางอย่างและมันก็ขาดลงอย่างง่ายดาย ความกลัวเกาะกินใจทั้งยังเห็นใบหน้าอันเหยเกอีกจึงตัดสินใจถอนตัวออกมา
“ ข้าขอโทษ ข้าทำท่านเลือดออกอีกแล้ว “ ทั้งที่คิดว่าจะดุด่ากลับเป็นเสียงขำขัน
“ เอ็งไม่เคยกับสาวพรหมจรรย์หรอว่ะ บาก “
“........”
“ ไอ้เนี่ย ถ้ามีเลือดไหลออกมาเท่ากับว่าเอ็งเป็นคนแรกของหญิงคนนั้น คือเอ็งได้ครั้งแรกของข้ามาสองครั้งแล้ว “ เพียงประโยคสั้นๆแต่อานุภาพช่างร้ายแรง
“ ท่านกำลังยุกำหนัดข้า “
“ แล้วใครห้ามยุกัน มาทำกันได้แล้ว “ ครานี้กลับเป็นจมื่นเองที่รุก สองมือกำส่วนที่ชุ่มด้วยเลือดและน้ำหล่อลื่นจ่อมันไปที่ระหว่างกลีบทั้งสอง
“ ข้าจะทำให้ร้องเรียกหาแต่ข้า”
“ แล้วทุกวันนี้ไม่เป็นเช่นนั้นหรือ “ นิ้วยาวกดขยี้เจ้าเม็ดชมพูเรื่ออย่างหมั่นหน่อยๆ แต่เรียกเสียงร้องลั่น แก่นกายสอดเข้าไปจนสุดในคราเดียว เริ่มต้นด้วยจังหวะเนิบๆแล้วเร่งจังหวะสองกายสอดประสานกันดังเช่นที่ผ่านๆมา ความสุขสมปลดปล่อยออกมากันอย่างนับไม่ถ้วนไหลล้นทะลักออกมา ก่อเกิดสิ่งมหัศจรรย์ที่เชื่อความรักนี้ในแนบแน่มากขึ้นไปอีก
.
.
.
.
.
“ ข้าจะตั้งชื่อเด็กว่า สุข มาจากความสุขของข้าและเอ็งไงล่ะ