วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Fic ไขลานที่หยุดนิ่ง [ยักษ์กินอ๊อด] ตอนที่ 6


Fic ไขลานที่หยุดนิ่ง [ยักษ์กินอ๊อด] ตอนที่ 6
Fic 9 ศาสตรา [ไขลานที่หยุดนิ่ง] Pairing: ยักษ์กินอ๊อด
Reta: R-15(มั้งนะ)
 #คือเนื้อเรื่องจะต่อจากตอนจบในเรื่องนะจ๊ะ คืออินมากจนแต่งอ่าาาา
#แอบกาวทมิฬติดพันธ์อีกนะฉันเนี่ย
……………………………………………………………………………………………………


ทหารยักษามากมายไต่เชือกมายังเรือค้าเถื่อนลำนี้ เหล่าผู้ที่ศิโรราบโดนจับกุม เรือเร็วขนเหล่าผู้ถูกกักขังจนเต็มลำมุ่งหน้าไปทางนครคีรีกัณฑ์ เรือเร็วที่เหลืออีกลำเข้าเทียบด้านบนดาดฟ้าเรือค้าปรากฏยักษาสีชาด


“ ท่านพี่ อ๊อด ปลอดภัยดีนะ “


“ ก็อย่างที่เจ้าเห็นนั้นล่ะ “


“ กลับเมืองกันเถอะ พี่ “ ทั้งหมดต่างแยกย้ายกันขนเหล่านักโทษย้ายไปยังเรือเหาะเกาะหนาเสียงร้องของนกก็ดังขัดขึ้นพร้อมเสียงตะโกน


“ ทาง 9 นาฬิกามีเรือเหาะขนาดใหญ่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ มันกำลังยิงปืนใหญ่มา หลบเร็ว!!!   ท้องฟ้าสีครามมีร่างขนาดใหญ่ของ นาคปักษิณกายแดงชาดกับปีกอันกลางใหญ่นั้นกระพือปีกหลบลูกเหล็กที่พุ่งสวนมา


“ ถอยกลับเรือเร็ว ไป!! “ มารตาสั่งเหล่าทหารยักษาย้ายกลับไปที่เรือโดยตนเองยังไม่ยอมกลับ การอยู่รอดของทหารและทุกคนขึ้นอยู่กับเขา มารตาพยายามไล่เพื่อนมนุษย์ของเขากลับแต่เจ้ายืนกลางว่าจะอยู่ช่วยตนถ่วงเวลา ส่วนพี่ชายของเขาพูดเพียงว่า

หากอ๊อดอยู่ข้าก็จะอยู่ มารตาเลยไม่ขัดข้องในการตัดสินใจของทั้งคู่ ก็ดีอย่างน้อยเขาจะได้เบาแรงลง พออายุมากขึ้นร่างกายราวจะหนักอึ้งขึ้น


“ ถอนฉมวก!!! “ ฉมวกทั้งหมดปลดออกเรือเหาะทั้งหมดเคลื่อนตัวกลับนครโดยการแฝงตัวเข้ากลีบเมฆให้รอดจากเรือเรือใหญ่ที่ไล่ตาม ยักษาสีชาดยืนมองเรือเหาะทั้งหมดแล่นเข้ากลีบไป


“ ข้าจะพาพวกท่านไปยังที่ปลอดภัย “ ปักษิณสีชาดกระพือร่อนลงร่างสีม่วงสันทัดสูงแลดูปราดเปรียว หน้าตามีเค้าโครงของพรานทมิฬ มีเพียงจมูกเป็นของมนุษย์ทั่วไป ใบหูยาวเรียวแหลม เขาทั้ง 4 ที่หน้าผากผมสีดำพริ้มไหวตามลม แขนและขาที่แข็งแกร่ง เล็บมือและเท้าแหลมคมร่างนั้นกระโดดลง ไล่มองทุกคนและหยุดที่ยักษ์กายมรกตสักพักหน้าตายๆนั้น หันมองมารตาอย่างขอคำตอบ


“ ข้าลืมแนะนำไป นี่ สุข ลูกของบากกับจมื่นพันธ์พ่อบุญธรรมของอ๊อด ส่วนนี่พี่ข้า เทหะยักษา “ สุขพยักหน้ารับ


“ ข้าจะไม่ไปไหนและขอสั่งเจ้าให้ไปคุ้มครองเรือเหาะให้กลับสู่นครให้ปลอดภัย “


“ แต่ข้าเป็นองครักษ์ของท่าน “ แม้สีหน้าจะไม่เปลี่ยนไปมีเพียงแววตาที่หมองลง


“ แต่ข้าเป็นราชา!!.....เจ้าไม่ต้องห่วงข้าหรอก ข้ามีท่านพี่และเพื่อนที่เก่งกาจนัก  “ มารตาเมื่อเห็นแววตาที่หมองลงก็อดที่จะแก้ต่างไม่ได้ ทารคาและอ๊อดรู้สึกความสัมพันธ์พิเศษๆของทั้งสอง


“ ข้าจะยอมท่านแค่ครั้งนี้เท่านั้น “ ร่างสันทัดขึ้นขี่พาหนะขี่ทะยานขึ้นตามกองเรือเหาะไป


“ ข้าว่าเรารีบจัดการเรื่องที่ค้างกันเถอะ ท่านพี่ อ๊อด “ ร่างทั้งสามหันไปทางเรือเหาะขนาดใหญ่ที่มุ่งมา มือใหญ่ของทารคาปัดป้องลูกเหล็กที่พุ่งเข้า

ทารคาช้อนร่างของอ๊อดขึ้นเพียงแค่แรงกระโดดในครั้งเดียวก็ถึงตัวเรืออีกฝั่ง มารตากระโดดตามมาติดๆ เหล่าศัตรูในเรือลำนี้มีทุกเผ่าพันธุ์ ไม่ว่าจะมนุษย์ ยักษ์ และวานร ทั้งหมดตั้งท่าพร้อมรบ อ๊อดเป็นคนแรกที่เปิดการโจนตี ศัตรูหลักมักจะเป็นมนุษย์กับวานรเน้นความว่องไวและคล่องตัว หมัดทั้งสองห่อหุ้มด้วยศาสตราพุ่งตัวไปโจนตีศัตรูคนแล้วคนเล่า ทารคาจะรับมือกับเผ่ายักษ์และเผ่าที่ตัวโตที่เน้นพละกำลัง ส่วนมารตาจะคอยคุ้มกันจะระยะไกล


“ เหลือไว้สักคนด้วยนะ พี่ “


“ เออ!!


การต่อสู้ฝ่ายของอ๊อดได้เปรียบหากแต่หูของวีรชนพลันได้ยินกลไกบางอย่างด้านใต้ อ๊อดจะไม่เสี่ยงให้มันได้ทำงาน อ๊อดวิ่งเข้าหาทารคา เจ้าตัวเหมือนจะอ่านความคิดของอ๊อดออก สองมือประสานกันย่อตัวลงมือยกสูงขึ้นดีดร่างของอ๊อดให้ลอยสูง อ๊อดหมุนตัวพร้อมง้างหมัด ปล่อยหมัดลงพื้นเรือเหาะ เกิดรอยปริแตกล่ามไปรอบเรือ


“ หนีกันเถอะจ๊ะ “ เมื่อเท้าถึงพื้นก็เร่งเท้าวิ่งไปยังยักษากายมรกตที่ยื่นมือรอรับอยู่ไม่วายหยิบวานรที่สลบอยู่ใกล้ๆมาด้วย


“ โดด!! “ มารตาเริ่มกระโดดก่อนคนแรกตามด้วยทารคาที่อุ้มอ๊อดไว้


กลางเรือค่อยๆแยกออกจากกันและเอียงลงเหล่าคนที่ไร้ที่ยึดเกาะไหลลงสู่ด้านล่าง เสียงร้องโหยหวนลอยตามหลังทั้งสามคน เมื่อเท้าแตะพื้นก็พบพรานสุขยืนกอดอกรอการกลับมา


“ ยังอลังการเช่นเคยเลยนะ “ หลายครั้งที่มีเรื่องประมาณนี้เกิดขึ้นในตอนท้ายมักจะเป็นฝ่ายโน้นที่พังพินาศด้วยวีรชนผู้นี้ เหตุการณ์แบบนี้เลยทำเขาชินไปเลย เขาจะไม่ได้เกิดมาเลยถ้าวีรชนผู้ไม่เป็นตัวการหลักในเรื่องนี้ ถึงแม้จะมีศักดิ์เป็นพี่บุญธรรมแต่แม่กับพ่อก็ฝากฝังไว้กับเขา ด้วยที่เขาเป็นลูกครึ่งมนุษย์ทมิฬอายุจึงยืนเท่าๆกันเผ่ายักษ์ และตอนนี้ก็มียักษ์ที่หมายตาไว้แล้วด้วย



“ ขี่หลังเจ้านี่กลับเมืองเถอะ ข้าเตรียมหมอหลวงไว้ให้ด้วย “  ทารคาพยักหน้าเล็กน้อยแขนแกร่งส่งอ๊อดขึ้นก่อนที่ตนจะขึ้นตามด้วยมารตาต่อขณะที่กำลังปีนขึ้นร่างสันทัดยืนหน้ามากระซิบแหลมเรียวสีชาด




“ คืนนี้ ข้าจะไปหาท่านที่ห้องบรรทม โปรดนับยอดโทษของท่านไว้เถิด “

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น