วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Fic ไขลานที่หยุดนิ่ง [ยักษ์กินอ๊อด] ตอนที่ 5


Fic ไขลานที่หยุดนิ่ง [ยักษ์กินอ๊อด] ตอนที่ 5
Fic 9 ศาสตรา [ไขลานที่หยุดนิ่ง] Pairing: ยักษ์กินอ๊อด
Reta: R-15(มั้งนะ)
 #คือเนื้อเรื่องจะต่อจากตอนจบในเรื่องนะจ๊ะ คืออินมากจนแต่งอ่าาาา

………………………………………………………………………………………………………..



ท่ามกลางน่านฟ้าอันไร้ขอบเขตเรือสีดำทมิฬเคลื่อนที่โดยไม่รู้ถึงชะตากรรมของเจ้าของมันในอีกไม่นานนัก เรือค้านี้กำลังมุ่งไปทิศตะวันออกสู่แผ่นดินใหญ่ซึ่งเป็นจุดปล่อยสินค้าแหล่งใหญ่ ในระหว่างทางมีเรือเหาะขนาดส่วนมาเทียบท่า ปรากฏร่างของบุรุษหน้าคมสันโครงหน้าดังราชสีห์ดวงตาดุดันคิ้วดำเข้ม รัศมีแห่งความยำเกรงแผ่ออกมา อ้างตนคือราชทายาทของราชาแห่งรามเทพนครแต่เป็นเพียงบุตรนอกสมรสเท่านั้นได้ข่าวว่าสามารถจับวีรชนในตำนานได้จึงขอชมเป็นขวัญตา บุรุษผู้กล่าวอ้างนี้ขอซื้อวีรชนนี้ เนื่องด้วยถูกใจยิ่งนัก ถึงแม้จะตกลงราคากันเสร็จแต่ความแคลงใจของเจ้าของเรือก็มิหาย ระหว่างไปรับเงินก็สั่งให้ลูกน้องไปรับแทนตนจะอยู่ที่เรือรอบส่งจดหมายนกอาคมแจ้งขอกำลังเสริมจากผู้อยู่เบื้องหลัง




ทางด้านมารตาได้เตรียมเรือเหาะเหล็กประจัญบานแห่งนครคีรีกัณฑ์ซุ่มอำพลางตัวภายใต้กลุ่มเมฆโดยรอบทั้งหมด 6 ลำดักรอในเส้นการเดินเรือของเป้าหมาย โดยมีเรือขนาดเล็กที่รวดเร็วที่สุดในโลกในขณะนี้ติดเสริมใบพัดไว้ที่ท้ายเรือและที่ท้ายบอลลูน ด้วยความที่ต้องการความเร็วเกราะเหล็กจึงบางมากนั้นคือข้อเสียเข้าร่วมจำนวน 2 ลำไว้ขนเหล่าผู้ที่จับตัวไปทั้งหมดและไล่ล่าอีก 4 ลำเป็นเรือหุ้มเกราะหนา 3 นิ้ว ปืนใหญ่ไม่สามารถยิงเจาะได้ข้อเสียเคลื่อนที่ช้าจึงไว้ดักจับ



ทางด้านทารคาหลังปลดปล่อยอ๊อดออกมาจากกรงมือทั้งสองกระชากโซ่ตรวนทั้งแขนขาออก สำรวจร่างกายอันหวงแหนตามร่างกายไม่มีการเฆี่ยนตีมีเพียงรอบแดงรอบข้อมือและเท้าเท่านั้น



“ กลัวหรือเปล่า อดีตราชันกล่าวแผ่ว



“ ไม่จ๊ะ เพราะยังไงพี่ทารคาก็มาช่วยฉัน



“ หึ มาเถอะ เริ่มแผนขั้นต่อไปกัน   หลังยักษาก็อุ้มอ๊อดด้วยมือเดียวช้อนแขนรองไว้ที่ก้นงามจับแขนทั้งสองของอ๊อดคล้องไว้ที่คอ เมื่อเห็นว่าแน่ว่าไม่มีทางทำคนตรงหน้าตกจึงเคลื่อนกายสุดด้านซ้ายซึ่งเป็นผนังโล่งแนบหูลงไปพร้อมกับที่เคะผนังไม้เป็นจังหวะ




รหัส



“ โลโต ( พร้อมแล้ว ) อสุรวายุภักษ์ ( อพยพ ) ท้ายเรือ



“ พิเภก



“ เทหะ หลังจบสัญญาณก็เกิดเสียงปลดตรวจและการต่อสู้ย่อมๆขึ้น



“ อ๊อดหน้าที่ของเราสองคือ ถ่วงเวลา เจ้าไม่จำเป็นต้องสู้ก็ได้ข้าได้ฟังเรื่องมาจากมารตาแล้ว



“ ไม่จ๊ะ ฉันจะสู้จ๊ะ ฉันจะช่วยพี่สู้จ๊ะ อ๊อดซบหน้าลงสูดกลิ่นที่น่าหลงใหลนี้




“ ข้าจะระวังหลังให้เจ้า ยักษาจุมพิตเบาๆลงไปยังดวงตาที่ปิดสนิทที่ภายในนั้นยังคงกลวง

                              

                                  
“ ด้านหลังของพี่ฉันจะระวังให้เช่นกันจ๊ะ หลังจบประโยคเรียกรอยยิ้มของยักษาขาแกร่งก้าวเดินออกจากห้องคับแคบนี้ เมื่อไปถึงด้านบนดาดฟ้าเรือเหล่าลูกเรือและเจ้าของกำลังยืนคอยพร้อมอาวุธครบมือ ทารคามองไปรอบๆประมาณจำนวนคราวๆไว้โดยมีอ๊อดกระซิบบอกถึงสิ่งบางอยู่ข้างใต้เท้า



‘ 20 ไม่สิ ราว 30 กับอีกบางอย่างใต้นี่ เสียงเป็นสิงห์ 




ร่างของผู้อ้างตนพลันแปรเปลี่ยนเริ่มจากสีกายที่ค่อยๆเป็นสีมรกต เกศายาวดำเปลี่ยนเป็นสีแดงชาด เขี้ยวงอกยาว รอยเอกลักษณ์ปรากฏตามกายมรกต อดีตราชันค่อยๆวางร่างในอ้อมแขนลงทั้งคู่มีท่าทางสงบไร้ความกลัวใดๆกับจำนวนอันมากกว่ากลับกัน ฝ่ายที่จำนวนมากกลับสั่นกลัว





“ ทะ.เทหะยักษา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเกิดไม่ทันสมัยที่ยักษาตนนี้รุ่งเรือง หากแต่สิ่งที่เหลือทิ้งไว้ก็สามารถคาดเดาความแข็งแกร่งได้ไม่ยาก ในระหว่างท่ามกลางความสับสนนั้นอ๊อดพุ่งตัวออกไปประเคนหมัดขวาตรงให้กับคนแรกอย่างแม่นยำ แม้จะไร้ดวงตาแต่การจับตำแหน่งด้วยเสียงก็ทำได้แม่นยำลิ้นเดาะเป็นจังหวะฟังเสียงสะท้อนจับตำแหน่ง



ซ้ายเข้า วีรชนยกเท้ายันเข้าใบหน้าอย่างแม่นยำ บาทาลูบพักตร์ ศัตรูมึนงงเป็นจังหวะเหมาะ อ๊อดกระโดดม้วนตัวเตะเข้าที่สันกรามอีกครั้ง บั่นเศียรทศกัณฐ์



ด้านเทหะยักษาเมื่อเห็นคนรักตนไม่มีอะไรน่าห่วงมากนักจึงหันไปสนใจการต่อสู้ของตนเอง ส่วนมาใหญ่เป็นการสู้ด้วยมือเปล่าเพียงแค่ออกแรงไม่มากเหล่ามนุษย์ก็กระเด็นไปทิศต่างๆ จับโยนเหวี่ยงราวกับเป็นลูกมะพร้าวก็ไม่ปาน เจ้าของเรือเห็นท่าไม่ดีสั่งลูกปลดล็อคประตูกรงขัง



“ โฮก!!!!! บัณฑุราชสีห์ร่างใหญ่ยักษ์กระโจนออกมากัดฉีกกระชากใครก็ตามที่อยู่ใกล้มัน กายสีเหลืองมีแถบน้ำตาลย้อมไปด้วยโลหิต ดวงตารี่แหลมหันจับจ้องมายังผู้ที่น่าเกรงขามที่สุด คำรามเสียงสนั่นจนเรือสั่นไหว มุ่งตรงหมายจะสังหารยักษาตนเดียวในนี้ สองมือตั้งรับจับกำเขี้ยวที่ชะโลมด้วยโลหิตนั้นไว้แรงปะทะอันรุนแรงร่างที่ยืนถึงกับไถลไปด้านหลังเล็กน้อย




“ พี่ทารคาจับไว้แน่นๆนะจ๊ะ อ๊อดวิ่งมาพร้อมกับมือทั้งสองปรากฏศาสตราขึ้นมาง้างมือต่อยลงไปที่สันกรามสร้างความมึนงงจังหวะนั้นยักษาสวนหมัดฮุคเข้ากระเดือก ร่างบัณฑุราชสีห์ล้มลงทันที ยักษาหันมองโดยรอบด้วยความพอใจในความหวาดกลัวของฝ่ายตรงข้าม



“ นี่เป็นโอกาสของเหล่าพวกเจ้า หากยอมศิโรราบชีวิตของพวกเจ้าจะรอด อ๊อดเดินกลับมายืนเคียงข้างยักษามือของทั้งคู่กุมกันไว้ หูสดับฟังเสียงที่ท้ายเรือ รอสัญญานบอกถึงการอพยพเสร็จสิ้น ยักษากวาดสายตามองบางคนที่คุกเข่าวางอาวุธ ยกเว้นเพียงเจ้าของเรือที่ยังกล้ายืนประจันหน้าอยู่



“ พี่ทารคาจ๊ะ




“ อื้ม ภารกิจเราเสร็จสิ้นแล้วอ๊อด




เรือเหาะบินถึงกลางหุบเขารอบข้างปรากฏเรือเหล็กขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากเมฆฉมวกมากมายถูกยิงออกมา การจับกุมได้เริ่มขึ้นแล้ว ......














                                                                


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น