Fic ไขลานที่หยุดนิ่ง
[ยักษ์กินอ๊อด] ตอนที่ 5
Fic 9 ศาสตรา
[ไขลานที่หยุดนิ่ง] Pairing: ยักษ์กินอ๊อด
Reta: R-15(มั้งนะ)
#คือเนื้อเรื่องจะต่อจากตอนจบในเรื่องนะจ๊ะ
คืออินมากจนแต่งอ่าาาา
………………………………………………………………………………………………………..
ท่ามกลางน่านฟ้าอันไร้ขอบเขตเรือสีดำทมิฬเคลื่อนที่โดยไม่รู้ถึงชะตากรรมของเจ้าของมันในอีกไม่นานนัก
เรือค้านี้กำลังมุ่งไปทิศตะวันออกสู่แผ่นดินใหญ่ซึ่งเป็นจุดปล่อยสินค้าแหล่งใหญ่
ในระหว่างทางมีเรือเหาะขนาดส่วนมาเทียบท่า
ปรากฏร่างของบุรุษหน้าคมสันโครงหน้าดังราชสีห์ดวงตาดุดันคิ้วดำเข้ม
รัศมีแห่งความยำเกรงแผ่ออกมา อ้างตนคือราชทายาทของราชาแห่งรามเทพนครแต่เป็นเพียงบุตรนอกสมรสเท่านั้นได้ข่าวว่าสามารถจับวีรชนในตำนานได้จึงขอชมเป็นขวัญตา
บุรุษผู้กล่าวอ้างนี้ขอซื้อวีรชนนี้ เนื่องด้วยถูกใจยิ่งนัก
ถึงแม้จะตกลงราคากันเสร็จแต่ความแคลงใจของเจ้าของเรือก็มิหาย
ระหว่างไปรับเงินก็สั่งให้ลูกน้องไปรับแทนตนจะอยู่ที่เรือรอบส่งจดหมายนกอาคมแจ้งขอกำลังเสริมจากผู้อยู่เบื้องหลัง
ทางด้านมารตาได้เตรียมเรือเหาะเหล็กประจัญบานแห่งนครคีรีกัณฑ์ซุ่มอำพลางตัวภายใต้กลุ่มเมฆโดยรอบทั้งหมด
6
ลำดักรอในเส้นการเดินเรือของเป้าหมาย
โดยมีเรือขนาดเล็กที่รวดเร็วที่สุดในโลกในขณะนี้ติดเสริมใบพัดไว้ที่ท้ายเรือและที่ท้ายบอลลูน
ด้วยความที่ต้องการความเร็วเกราะเหล็กจึงบางมากนั้นคือข้อเสียเข้าร่วมจำนวน 2 ลำไว้ขนเหล่าผู้ที่จับตัวไปทั้งหมดและไล่ล่าอีก 4 ลำเป็นเรือหุ้มเกราะหนา
3 นิ้ว
ปืนใหญ่ไม่สามารถยิงเจาะได้ข้อเสียเคลื่อนที่ช้าจึงไว้ดักจับ
ทางด้านทารคาหลังปลดปล่อยอ๊อดออกมาจากกรงมือทั้งสองกระชากโซ่ตรวนทั้งแขนขาออก
สำรวจร่างกายอันหวงแหนตามร่างกายไม่มีการเฆี่ยนตีมีเพียงรอบแดงรอบข้อมือและเท้าเท่านั้น
“
กลัวหรือเปล่า “ อดีตราชันกล่าวแผ่ว
“
ไม่จ๊ะ เพราะยังไงพี่ทารคาก็มาช่วยฉัน “
“
หึ มาเถอะ เริ่มแผนขั้นต่อไปกัน ” หลังยักษาก็อุ้มอ๊อดด้วยมือเดียวช้อนแขนรองไว้ที่ก้นงามจับแขนทั้งสองของอ๊อดคล้องไว้ที่คอ
เมื่อเห็นว่าแน่ว่าไม่มีทางทำคนตรงหน้าตกจึงเคลื่อนกายสุดด้านซ้ายซึ่งเป็นผนังโล่งแนบหูลงไปพร้อมกับที่เคะผนังไม้เป็นจังหวะ
‘ รหัส ‘
“
โลโต ( พร้อมแล้ว ) อสุรวายุภักษ์ ( อพยพ ) ท้ายเรือ “
“
พิเภก “
“
เทหะ “ หลังจบสัญญาณก็เกิดเสียงปลดตรวจและการต่อสู้ย่อมๆขึ้น
“
อ๊อดหน้าที่ของเราสองคือ ถ่วงเวลา
เจ้าไม่จำเป็นต้องสู้ก็ได้ข้าได้ฟังเรื่องมาจากมารตาแล้ว “
“ ไม่จ๊ะ
ฉันจะสู้จ๊ะ ฉันจะช่วยพี่สู้จ๊ะ “ อ๊อดซบหน้าลงสูดกลิ่นที่น่าหลงใหลนี้
“
ข้าจะระวังหลังให้เจ้า “ ยักษาจุมพิตเบาๆลงไปยังดวงตาที่ปิดสนิทที่ภายในนั้นยังคงกลวง
“
ด้านหลังของพี่ฉันจะระวังให้เช่นกันจ๊ะ “ หลังจบประโยคเรียกรอยยิ้มของยักษาขาแกร่งก้าวเดินออกจากห้องคับแคบนี้
เมื่อไปถึงด้านบนดาดฟ้าเรือเหล่าลูกเรือและเจ้าของกำลังยืนคอยพร้อมอาวุธครบมือ
ทารคามองไปรอบๆประมาณจำนวนคราวๆไว้โดยมีอ๊อดกระซิบบอกถึงสิ่งบางอยู่ข้างใต้เท้า
‘
20 ไม่สิ ราว 30 กับอีกบางอย่างใต้นี่ เสียงเป็นสิงห์ ‘
ร่างของผู้อ้างตนพลันแปรเปลี่ยนเริ่มจากสีกายที่ค่อยๆเป็นสีมรกต
เกศายาวดำเปลี่ยนเป็นสีแดงชาด เขี้ยวงอกยาว รอยเอกลักษณ์ปรากฏตามกายมรกต
อดีตราชันค่อยๆวางร่างในอ้อมแขนลงทั้งคู่มีท่าทางสงบไร้ความกลัวใดๆกับจำนวนอันมากกว่ากลับกัน
ฝ่ายที่จำนวนมากกลับสั่นกลัว
“
ทะ.เทหะยักษา “ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเกิดไม่ทันสมัยที่ยักษาตนนี้รุ่งเรือง
หากแต่สิ่งที่เหลือทิ้งไว้ก็สามารถคาดเดาความแข็งแกร่งได้ไม่ยาก
ในระหว่างท่ามกลางความสับสนนั้นอ๊อดพุ่งตัวออกไปประเคนหมัดขวาตรงให้กับคนแรกอย่างแม่นยำ
แม้จะไร้ดวงตาแต่การจับตำแหน่งด้วยเสียงก็ทำได้แม่นยำลิ้นเดาะเป็นจังหวะฟังเสียงสะท้อนจับตำแหน่ง
‘ ซ้ายเข้า ‘ วีรชนยกเท้ายันเข้าใบหน้าอย่างแม่นยำ “ บาทาลูบพักตร์ “ ศัตรูมึนงงเป็นจังหวะเหมาะ
อ๊อดกระโดดม้วนตัวเตะเข้าที่สันกรามอีกครั้ง “ บั่นเศียรทศกัณฐ์
“
ด้านเทหะยักษาเมื่อเห็นคนรักตนไม่มีอะไรน่าห่วงมากนักจึงหันไปสนใจการต่อสู้ของตนเอง
ส่วนมาใหญ่เป็นการสู้ด้วยมือเปล่าเพียงแค่ออกแรงไม่มากเหล่ามนุษย์ก็กระเด็นไปทิศต่างๆ
จับโยนเหวี่ยงราวกับเป็นลูกมะพร้าวก็ไม่ปาน
เจ้าของเรือเห็นท่าไม่ดีสั่งลูกปลดล็อคประตูกรงขัง
“
โฮก!!!!! ” บัณฑุราชสีห์ร่างใหญ่ยักษ์กระโจนออกมากัดฉีกกระชากใครก็ตามที่อยู่ใกล้มัน
กายสีเหลืองมีแถบน้ำตาลย้อมไปด้วยโลหิต
ดวงตารี่แหลมหันจับจ้องมายังผู้ที่น่าเกรงขามที่สุด คำรามเสียงสนั่นจนเรือสั่นไหว
มุ่งตรงหมายจะสังหารยักษาตนเดียวในนี้ สองมือตั้งรับจับกำเขี้ยวที่ชะโลมด้วยโลหิตนั้นไว้แรงปะทะอันรุนแรงร่างที่ยืนถึงกับไถลไปด้านหลังเล็กน้อย
“
พี่ทารคาจับไว้แน่นๆนะจ๊ะ “
อ๊อดวิ่งมาพร้อมกับมือทั้งสองปรากฏศาสตราขึ้นมาง้างมือต่อยลงไปที่สันกรามสร้างความมึนงงจังหวะนั้นยักษาสวนหมัดฮุคเข้ากระเดือก
ร่างบัณฑุราชสีห์ล้มลงทันที ยักษาหันมองโดยรอบด้วยความพอใจในความหวาดกลัวของฝ่ายตรงข้าม
“
นี่เป็นโอกาสของเหล่าพวกเจ้า หากยอมศิโรราบชีวิตของพวกเจ้าจะรอด “ อ๊อดเดินกลับมายืนเคียงข้างยักษามือของทั้งคู่กุมกันไว้
หูสดับฟังเสียงที่ท้ายเรือ รอสัญญานบอกถึงการอพยพเสร็จสิ้น
ยักษากวาดสายตามองบางคนที่คุกเข่าวางอาวุธ
ยกเว้นเพียงเจ้าของเรือที่ยังกล้ายืนประจันหน้าอยู่
“
พี่ทารคาจ๊ะ “
“
อื้ม ภารกิจเราเสร็จสิ้นแล้วอ๊อด “
เรือเหาะบินถึงกลางหุบเขารอบข้างปรากฏเรือเหล็กขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากเมฆฉมวกมากมายถูกยิงออกมา
การจับกุมได้เริ่มขึ้นแล้ว ......
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น