วันพุธที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2561

Fic ไขลานที่หยุดนิ่ง [ยักษ์กินอ๊อด] ตอนที่ 1

Fic ไขลานที่หยุดนิ่ง [ยักษ์กินอ๊อด] ตอนที่ 1
Fic 9 ศาสตรา [ไขลานที่หยุดนิ่ง] Pairing: ยักษ์กินอ๊อด
Reta: R-15(มั้งนะ)
 #ฉันทำร้ายอ๊อดไปหรือป่าวน๊าาาาาาาาาาาาาาาาา555555555

…………………………………………………………………………………………………..



กลางเมืองคีรีกัณฑ์ผู้คนเดินกันคึกคักหลังจบสงครามการค้าก็รุ่งเรืองด้วยความที่มีเขตเมืองท่า ความเป็นมิตรของราชาองค์ปัจจุบัน อีกทั้งมีมิตรสหายเป็นวีรชนผู้ปลดปล่อยชาวเมืองรามเทพจึงเป็นการง่ายที่ประชาชนและชาวต่างเมืองจะลดความระแวงลง จึงเกิดปฎิสัมพันธ์กันระหว่างมนุษย์กับยักษามีชาวเมืองรามเทพบางส่วนย้ายมาตั้งรกรากในคีรีกัณฐ์เช่นเดียวชาวคีรีกัณฐ์บางส่วนได้ย้ายไปยังรามเทพนครจึงมีกฎหมายที่เข้มงวดและข้อตกลงระหว่างเป็นเมืองเป็นตัวรักษาความสันตินี้ไว้

            ประตูหน้าปราสาทปรากฏร่างหนึ่งสวมผ้าคลุมมีฮู้ดยาวคลุมยันเท้าเดินมุ่งมาที่ประตูราชวังที่มีทหารยักษ์ยืนประจำอยู่ 2 ตน

“ ฉันมาพบอยู่ราชาตามหมายเรียกตัวจ๊ะ ”  ชายปริศนายื่นม้วนจดหมายลงตราประจำราชสำนักให้นายทวารบาลตรวจสอบ

“ เชิญ “ ทหารยักษ์ตนนึงเดินนำทางไปยังด้านในส่งต่อให้เหล่าข้าราชบริพารนำทางต่อไปยังห้องทำงานขององค์ราชา

“ เจ้ามาเร็วกว่าที่ข้านัดนัก “ มารตาที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานนั้นยิ้มอ่อนโยนให้กับชายปริศนา

“ เพราะข้าอยู่ในเมืองใกล้ๆนี่ล่ะจ๊ะ ไม่ได้พบกันนานเลยนะจ๊ะ พี่เบิ้ล ท่านแก่ขึ้นอีกแล้วนะจ๊ะ “ ชายปริศนาดึงฮู้ดออกเผยอให้เห็นเรืองผมสีกาดำ ดวงตาสีเปลือกไม้สดใส รอยยิ้มสดใสไร้เดียงสามีเพียงแววตาเท่านั้นที่มิได้ไร้เดียงสาอีกแล้ว [ อ๊อด ] วีรชนผู้ล้มราชันยักษาที่โหดร้าย

“ เจ้าเองก็ไม่ต่างจากครั้งสุดท้ายที่ข้าจำได้เลย “ มารตาทำได้เพียงยิ้มเศร้าตอบไปเพียงเท่านั้น สหายของเขาผู้นี้ไม่แก่ขึ้นเลยโดยสาเหตุพวกเราเดาว่ามาจากศาตราที่หลอมเข้ากับเจ้าตัวจึงยืดอายุขัยที่แสนสั้นออกไปและพลังการฟื้นตัวที่เร็วจนดูเหมือนเจ้าตัวจะกลายเป็นอมตะก็ตามที ทำให้การดำเนินชีวิตสงบสุขของวีรชนผู้นี้แตกสลายลง เกิดข่าวลือแปลกประหลาดว่าหากผู้ใดดื่มกินมังสาของมนุษย์ผู้นี้จะเป็นอมตะ ความเป็นอยู่ของอ๊อดลำบากนักด้วยอำนาจของเขา วาตะและเสี่ยวหลานจึงช่วยหยุดการไล่ล่าแต่ก็ได้แค่บางส่วนเท่านั้น เจ้าตัวจึงตัดสินใจออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายเพื่อเลี่ยงไม่ให้คนรอบตัวเกิดอันตราย

“ จ๊ะ ข้าได้ไปเยี่ยมครอบครัววาตะและเสี่ยวหลานด้วยนะจ๊ะ หลานๆของพวกเขาน่าชังมาเลยจ๊ะ พี่เบิ้ลล่ะ ไม่คิดจะหาคู่ชีวิตหรือ “ อ๊อดพูดด้วยน้ำเสียงสดใสต่างจากแววตาที่เศร้าหมองมารตาเข้าใจมันได้ไม่ยากเลยเพราะสหายทั้งสองนั้นลาจากไปแล้วเหลือเพียงลูกหลานไว้ให้อ๊อดแวะเวียนไปหา คนที่อ๊อดเรียกว่าสหายมีเหลือเพียงเขาเท่านั้น

“ ใจข้ามีเพียงบุหงา ข้ารักใครมิได้ดอก “

“ ข้าขอโทษด้วยจ๊ะ ว่าแต่พี่เบิ้ลเรียกมามีเหตุใดให้ช่วยหรือ “

“ช่วงเดือนนี้ข้าต้องแฝงตัวไปในการค้าทาสเถื่อน จึงไม่มีใครกล้านำอาหารลงไปยังคุกที่พี่ข้าอยู่เลย ข้าเลยอยากจะวานเจ้าหน่อย ข้าจะเดินทางในอีก 2 วัน ช่วงที่ว่างเจ้าก็มาพักในวังนี้ก่อน “


“ จ๊ะ “ แม้อ๊อดจะมีสีหน้าลำบากใจแต่ก็ตอบตกลงทำให้มารตาผ่อนลมหายใจสบายใจไปอีกเรื่อง



2 วันต่อมา


ภายในถ้ำเสียงฝีเท้าอันคุ้นหูดังขึ้นอดีตราชันยักษาทำเพียงสดับฟังมิได้มีการขยับใดๆจนเสียงนั้นหยุดลงตรงหน้าเขา

“ ท่านเทหะไม่เปลี่ยนไปจากที่ข้าเห็นท่านครั้งสุดท้ายเลยนะจ๊ะ “ เสียงที่เปล่งมาเขาจำมันได้เจ้านี่คือคนที่ล้มเขา โทสะที่ดับลงไปนานแล้วปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

“ แล้วไงล่ะ เจ้ามนุษย์เฒ่า “ เทหะลืมตาโพลงจ้องมองวีรชนในชุดผ้าคลุมยาวยืนถือถาดอาหารอยู่ไม่ห่างจากเขา

“ เปล่าจ๊ะ ข้าแค่แปลกใจเท่านั้นเองจ๊ะ “ อ๊อดย่อตัวลงนั่งและวางถาดอาหารทุกกิริยาอยู่ภายใต้การจ้องมองของเทหะ

“ ไม่คิดว่าจะมีใครเป็นเหมือนเช่นข้าเท่านั้นเองจ๊ะ “ อ๊อดดึงฮู้ดออกเผยใบหน้าอันเยาว์วัยของตน

“ ...... “ อดีตราชันได้แต่ตกตะลึงเจ้ามนุษย์ตรงหน้าเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยจากที่เขาเห็นครั้งสุดท้ายในการต่อสู้ เขาไม่คิดว่าจะสวรรค์จะใจร้ายถึงเพียงนี้การสาปส่งเขาที่มีความผิดบาปนั้นเขาเข้าใจ แต่กลับมนุษย์ไร้เดียงสาตรงหน้าเขาเล่า ท่านสาปเด็กคนนี้ด้วยเหตุใด




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น