Fic ไขลานที่หยุดนิ่ง
[ยักษ์กินอ๊อด] ตอนที่ 2
Fic 9 ศาสตรา
[ไขลานที่หยุดนิ่ง] Pairing: ยักษ์กินอ๊อด
Reta: R-15(มั้งนะ)
#คือเนื้อเรื่องจะต่อจากตอนจบในเรื่องนะจ๊ะ คืออินมากจนแต่งอ่าาาา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
“ ท่านเทหะจ๊ะ
ถ้าไม่พอใจก็บอกกันตรงๆสิจ๊ะ ไม่ต้องจ้องกันแบบนี้ก็ได้ ” อ๊อดได้แต่ยิ้มแห้งๆ
“ เจ้ามาที่นี่เพื่ออะไร? “
อดีตราชันยังคงจ้องมนุษย์ตัวน้อยเขม้น
“ นำ..อาหารมาให้ท่านจ๊ะ “
“ งั้นก็รีบป้อนข้าแล้ว รีบกลับไปได้แล้ว
“
“ จะ..จ๊ะ ”
อ๊อดกุลีกุจอหยิบเนื้อดิบป้อนอดีตยักษาด้วยใจอันเปี่ยมสุข
‘ ข้าจะไม่ต้องอยู่คนเดียวแล้ว
‘
หลังจากผ่านพ้นการกินอาหารอันเงียบงันมีเพียงอ๊อดที่ยิ้มร่าอยู่ผู้เดียวจนอดีตราชันนึกหมั่นไส้ความไม่เกรงกลัวของมนุษย์ตรงหน้านี้จนนึกขันอยากแกล้งขึ้นมา
ดวงตาสะดุดไปที่แขนที่เปื้อนด้วยเลือดจากเนื้อดิบไหลเป็นทางยาว
“ ยื่นแขนออกมา “ อ๊อดยื่นแขนออกมาด้วยสีหน้างุนงงแต่ก็ได้แต่เดี๋ยวเดียวก็ต้องตกใจเพราะอดีตราชันก้มลงมาไล่เลียหยาดเลือดไม่พอยังขบแขนจนเลือดออกมายักษาตนนี้ไล่รสอันหวานช่ำดังผลไม้ที่สุกงอมอาจเป็นเพราะมิได้ลิ้มรสมังสามนุษย์มานานก็เป็นได้
“
ท่านเทหะหากยังมิอิ่มจะเอาแขนข้างนี้ฉันไปก็ได้นะจ๊ะ ไม่นานมันก็งอกใหม่ “ ประโยคนี้ควรจะสร้างความพอใจให้อดีตราชันแต่ไม่เลยกลับตรงกันข้าม
ดวงตาคมจ้องขึ้งอย่างโกรธา หากยังควบคุมให้ท่าทางยังสุขุมได้อยู่
“ เจ้าคงจะเสนอตัวแบบนี้บ่อยสินะ เจ้ามนุษย์
“
“ จ๊ะ ถึงจะปฏิเสธไปผลสุดท้ายผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยนไป
สู้ยื่นสิ่งที่จะเจ็บปวดน้อยที่สุดดีกว่าจ๊ะ แขนฉันข้างเดียวราวหนึ่งสัปดาห์ก็งอกกลับมาใช้ปกติล่ะจ๊ะ
“ อ๊อดพูดไปยิ้มไปเหมือนสิ่งที่พูดออกมามิได้หนักหนาอะไร
“ ทำไมไม่สู้กลับบ้างล่ะ
เจ้าคือผู้ที่ศาสตราหลอม คือมนุษย์เพียงผู้เดียวที่ล้มข้าที่อยู่เหนือทั้งยักษา
วานร และ มนุษย์ทั้งปวง ใยต้องยอมเสียมังสาให้มดปลวกด้วย “
“ ท่านคงรู้เหตุผลที่ฉันไม่สังหารท่าน
นั้นก็เป็นเหตุผลเดียวกัน ถึงแม้ในตอนท้ายคนเหล่านั้นจะยอมขายฉันเพื่อให้ตนเอง
คนรอบข้าง และครอบครัวมีชีวิตรอดก็ตามที...ตะ แต่เพราะฉันตัวคนเดียวและยังฟื้นตัวเองได้จึงมะ
ไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไรอีกอย่างทุกคนมีเหตุผลของตนเองนี่จ๊ะ
“ เจ้าคือมนุษย์ที่โง่ที่สุดที่ข้าพบเจอมา!! “ อดีตราชันขบเคี้ยวฟันอย่างโกรธเกี้ยวโทสะที่พยายามสะกดไว้ทะลักออกมาจนแผดเสียงดังสนั่น
“ เจ้าคือคนที่เขลาและขี้ขลาดที่สุด
เจ้าคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ขนาดแบกรับความมืดมิดของโลกนี้หรือไง
จงสำเหนียงตัวเองไว้เลยว่าตัวเองเป็นแค่มดปลวกเท่านั้น สิ่งที่เจ้าควรจะรักคือตัวเองมากกว่าผู้อื่น!! “ อดีตราชันหอบหายใจหลังจากปล่อยแรงโทสะพร้อมคำพูดที่พลั่งพลูอออกมา
“ จ๊ะ “
แรงโทสะของยักษามิได้ทำให้วีรชนคนนี้รู้เสียขวัญเลยแม้แต่น้อยกลับกันประโยคที่เหมือนการหมิ่นหยามหากแฝงด้วยความห่วงได้หล่อเลี้ยงลึกๆในหัวใจที่เฉยชากลับมาอบอุ่นดังวันวานอีกครั้งด้วย
ราวกับชีวิตกลับไปยังวันที่ยังอยู่กับเหล่าคนในเกาะนกแอ่น วันที่ยังมีพ่อและพ่อครู
ความหวังเล็กๆอันเลือนลางในชีวิตหลังเหล่าสหายไปลาจากไปหมดวีรชนคนนี้จะไม่โดดเดี่ยวแม้นจะต่างเผ่าพันธุ์
แม้นจะเคยเป็นอริ แม้นครั้งหนึ่งเคยห้ำหั่นแต่ครั้งนี้ยักษาตนนี้คือแสงสว่าง
“ ฉันจะจำคำของพี่เทหะไว้จ๊ะ ไว้พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะจ๊ะ“
อ๊อดลุกขึ้นยืนเก็บถาดอาหารเดินออกจากคุกด้วยใจที่รอค่อยให้ถึงอีกวันเร็ว
ในวันใหม่อ๊อดกลับมาในคุกเพื่อแค่ไม่ได้มาคนเดียวแต่มีนายทหารตามมาอีกคนในมือถือถังน้ำมาด้วย
แต่ก็มาเพียงช่วยถือเท่านั้นเมื่อสิ้นหน้าที่ก็จากไปปล่อยทิ้งทั้งสองไว้เช่นเมื่อวาน
วันนี้กลับเป็นวันที่สงบวันหนึ่งไร้สุมเสียงแห่งโทสะ จะมีก็เสียงเคี้ยวที่ดังสนั่นในถ้ำอันวังเวงนี้
“ ท่านเทหะ ฉันขอความร่วมมือหน่อยสิ
ถ้าจะไม่ยอมให้ข้าเช็ดตัวอย่างน้อยก็นั่งนิ่งหน่อยสิจ๊ะ “
“ เพราะเจ้าจะเช็ดในที่ที่ไม่ควรเช็ดน่ะสิ!!! “
“ แต่ไม่เช็ดถ้าเช็ดไม่หมดมันก็ไม่มีความหมายสิจ๊ะ!! “
วันหลายวันถัดมา
จากความวังเวงแปรเปลี่ยนเป็นเสียงเจื้อยแจ้วของวีรชน กล่าวเล่าเรื่องราวการเดินทางการพบเจอและลาจาก
ระยะระหว่างทั้งสองค่อยๆหายไปจน
“ พี่ทารคา
วันนี้ฉันได้ผลไม้จากแผ่นดินใหญ่มาเยอะเลยล่ะจ๊ะ “
“ อื้ม “
“ รอเดี๋ยวนะจ๊ะ “ อ๊อดยิ้มแย้มสดใส
เมื่อไม่กี่วันก่อนจู่ๆอดีตราชันก็ให้เขาเรียกด้วยชื่อจริงๆของตนด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ เทหะยักษา ’ เป็นเพียงฉายาและตอนนี้ก็เป็นเพียงนักโทษเท่านั้น แค่นี้ก็สร้างความสุขใจให้กับอ๊อดมากนัก
หากแต่ฟ้าก่อนฝนมักจะสดใสเสมอ
.
.
.
.
.
.
.
.
“ เริ่มแผนการค้าประมูลวีรชน “
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น