Fic ไขลานที่หยุดนิ่ง
[ยักษ์กินอ๊อด] ตอนที่ 4
Fic 9 ศาสตรา
[ไขลานที่หยุดนิ่ง] Pairing: ยักษ์กินอ๊อด
Reta: R-15(มั้งนะ)
#คือเนื้อเรื่องจะต่อจากตอนจบในเรื่องนะจ๊ะ คืออินมากจนแต่งอ่าาาา
……………………………………………………………………………………………………
เวลาพ้นผ่านไปหลายชั่วยามสองร่างในถ้ำเย็นกอดก่ายกันอย่างรักใคร่หนึ่งคือยักษาอีกหนึ่งคือมนุษย์
กิจกรรมก่อนหน้ายาวนานจนทั้งคู่ไม่สามารถรับรู้ว่าปลดปล่อยกันไปกี่ครั้ง ร่างสีน้ำผึ้งขยับตัวแนบใบหน้ากับอกแกร่งสูดกลิ่นกายอันเอกลักษณ์
การกระทำทั้งหมดอยู่ภายใต้จ้องมองของอดีตราชันมือใหญ่ลูบหัวสัมผัสอ่อนนุ่มจนไม่อยากเลิกการกระทำนี้เลย
“ ฉันทำให้พี่ตื่นหรือเปล่าจ๊ะ “
อ๊อดพูดทั้งที่ยังหลับซบอกแกร่งอยู่
“ ไม่เลย ข้าต่างหากที่ทำเจ้าตื่น “
อดีตยักษาจุมพิตลงไปที่กองนุ่มนิ่มสีกาดำเรียกความเขินอายจากวีรชนได้ดี ไม่เพียงเท่านั้นมือว่างดึงแก้มแดงอย่างหมั่นเขี้ยว
“ พี่ทารคาแกล้งฉันนิ “ วีรชนผละออกมายันตัวทำหน้ามุ่ยใส่เรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากยักษา
อ๊อดเห็นอารมณ์อันหายากก็พาลสุขใจเพิ่มไปอีก แม้ลึกจะกังวลถึงภัยร้ายที่ใกล้เข้ามา
‘ ความสุขนี้
ความอบอุ่นนี้ช่างสั้นเหลือเกินจ๊ะ ‘
“ พี่ทารคาจ๊ะ
ชีวิตที่ยาวนานของฉันของฝากไว้ที่พี่นะจ๊ะ “
“
ถึงเจ้าไม่ฝากแต่นั้คือสิ่งที่ข้าจะทำอยู่แล้ว
หากมารตากลับมาเมื่อไรนั้นคือเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน “
“ จ๊ะ ฉันขึ้นไปเตรียมอาหารก่อนนะจ๊ะ
“ ทั้งสองจุมพิตกันเบาๆ
ทารคาช่วยอ๊อดเช็ดคราบกามที่เปรอะเปื้อนช่วงกลางลำตัวทั้งยังจัดแจงนุ่งผ้าให้เพราะเจ้าตัวขยับตัวลำบาก
“ เดี๋ยวฉันกลับมานะจ๊ะ ท่านต้องพูดกับมารตาด้วยใจอันสุขุมด้วยนะจ๊ะ
ฉันไม่อยากจะกลับมาเห็นพวกท่านงอนกันหรอกนะจ๊ะ “ จู่ๆวีรชนก่ายกอดยักษาสร้างความฉงนใจแปลกๆแก่ทารคา
“ ฉันไปก่อนล่ะจ๊ะ “ อ๊อดผละออกไป
หยิบภาชนะที่วางทิ้งไว้ขึ้นมาและจะจากไป หากแต่อดีตราชันพลันสะดุดกับดวงตาเศร้าที่หายไปได้สักพักนั้นกลับมาอีกครา
มือใหญ่รั้งแขนไว้แต่สิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงมือน้อยๆที่สัมผัสอย่างอ่อยโยน
“ ท่านต้องตามไปช่วยฉันนะ “
ประโยคแผ่วเบานี้สร้างความงุนงงแก่ยักษาและเป็นจังหวะเดียวที่อ๊อดผละออกไปจนลับตา
เสียงแตกกระจายแล้วเสียงโวยวายดังขึ้นบวกกับคำทิ้งท้ายปริศนา
สร้างความร้อนใจแก่อดีตราชัน
แขนแกร่งกระชากตรวนพร้อมทั้งตะโกนเรียกหาผู้เป็นดังดวงใจหวังเพียงได้ยินเสียงให้คลายกังวล
สิ่งที่กลับมีเพียงความเงียบงันยักษาแผดเสียงและทุ่มกำลังกระชากแขนอย่างแรงจนโลหิตไหลรินเป็นทางยาว
การดึงดันนี้ยาวนานไปค่อนวันและกลับสู่ความเงีบอีกครั้ง ไม่นานนักความเงียบงันของถ้ำหยุดลงเมื่อน้องชายของเขาปรากฏตัวขึ้น
“ ข้าได้รับรายงานมาว่าท่านจะแหกคุกออก
เพราะอ๊อดหรือ? “
“ เจ้ารู้? “
“ ข่าวสารมักเร็วเสมอ “
“ งั้นจะรออะไรอีกเล่า มารตา ปล่อยข้าซะ
“ ทารคาจ้องสีหน้าเรียบเสียของน้องชาย ความจริงจังและจริงใจของทารคาทำให้น้องชายยิ้มออกมา
“ แต่ท่านต้องทำตามขั้นตอนของข้านะ
พี่ “
.
.
.
.
บนน่านฟ้าของป่าทิศตะวันออกนครคีรีกัณฑ์เรือเหาะสีดำหรูหราใบเรือแดงสลับเหลืองด้านบนเรือเหมือนเรือสินค้าท้องถิ่นทั่วไป
หากแต่แท้จริงแล้วคือแหล่งค้ามนุษย์ เผ่าพันธุ์หายาก สัตว์แปลก
สัตว์หายากและสัตว์สงวนทั้งยังมีอวัยวะเถื่อนการที่เป็นเรือเคลื่อนที่ตลอดจึงเป็นการยากที่จะจับกุม
ด้านในตัวเรือมีทั้งห้องประมูลขนาดใหญ่ ห้องชำแหละ ห้องกักขัง และห้องเลี้ยงดู ทุกอย่างครบวงจรในเรือเล่าเดียว
ทุกๆนครพยายามตามกำจัดมานาน หากไม่เพราะลูกค้าของการค้านี้มีตั้งแต่เศรษฐีมั่งคั่งยันเชื้อพระวงศ์ที่ทั้งหนุนหลังและนำแผนการจับกุมมาบอกก็มิอาจรอดมาได้ยันทุกวันนี้
“ เฮ้อ “
เสียงถอดหายใจดังในกรงขังเดี่ยวร่างของวีรชนนั่งขัดสมาธิพิงซี่กรงอย่างเบื่อหน่าย
ทั้งๆที่ควรจะชินได้แล้ว ตัวเขาเพิ่งรู้สึกตัวได้ไม่นานก็พบว่ารอบนี้สิ่งที่โดนเอาไปคือ
“ดวงตา” เมื่อไม่สามารถเห็นสิ่งใดได้ประสาทสัมผัสที่เหลือก็ดีขึ้นทันที เสียงลมที่ตีกับผ้าใบ
เสียงทรมานที่แว่วมาไกลๆ เสียงกรีดร้องขอความเมตตา เสียงร้องไห้อย่างสิ้นหวัง
สามารถเดาสถานที่ที่ตนอยู่ได้เลย เขารู้ตัวดีว่าร่างกายนี้โดนตีราคาไว้มหาศาลเพียงใด
แม้เพียงแค่การแตะต้องมังสาก็ยังสามารถตีเป็นทรัพย์ได้
ความโลภมักนำมาซึ่งความโหดร้าย
เสียงกรีดร้องคำอ้อนวอนใดๆก็มิสะท้านใจอันโลภได้ไม่ว่าจะเผ่าพันธุ์ใดก็ตาม
นี่คือสิ่งที่โลกนี้ได้สอนให้กับเขาแต่ตัวเขาก็อ่อนโยนมากเกินไป
สงสารผู้โดนกระทำแต่ใจก็มิแข็งพอที่จะสังหาร
“ เชิญด้านใน “ เสียงเปิดประตูได้หยุดความคิดของวีรชนลงเสียงฝีเท้าของสามคนมุ่งมาทางกรงของเขา
การถกเถียงต่อราคาดำเนินขึ้นอย่างดุเดือด
หากมีสิ่งหนึ่งสะกิดห้วงคำนึงกลิ่นกายอันติดจมูก กลิ่นที่สูดดมอย่างไรก็มิเบื่อ
“ ข้าจะซื้อวีรชนเดี๋ยวนี้ “
“
ข้าก็อยากจะขายให้ท่านตอนนี้เพียงแค่ติดอยู่นิด คือ ดวงตายังมิฟื้นคืนเลย
ข้าค้าขายก็อยากจะขายของดีๆ โปรดรออีกวันได้หรือไม่ “
“ แม้จะซื้อในราคาสิบเท่าของราคาตั้งประมูล
เจ้าก็มิเอา? “
“ ขะ ข้าคิดว่าท่านมา..”
ด้วยราคาที่สูงมากสร้างความลังเลใจกับเจ้าของ
“ สิบห้าเท่า “
“ ขาย “
“ ดี จงเดินไปเอาเงินกับองค์รักษ์ข้างนอกซะ
หากเจ้ากลับมารบกวนข้าหลังจากนี้จะเหลือเพียงสิบเท่า “ เจ้าของหน้าเงินยืนกุญแจก่อนเดินออกไปข้างนอกกับยักษ์องค์รักษ์
“ ฉันคิดว่าพี่จะมาช้ากว่านี้อีกจ๊ะ
“
.
.
.
.
“ สบายใจเหลือเกินนะ อ๊อด เจ้าตัวดีเช่นเจ้า
พร้อมกับแผนการทลายเรือลำนี้แค่ไหนล่ะ “
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น