ตอนที่ 12
[ทางด้านทศกัณฐ์]
“ตุบ” เสียงของร่างกายกระทบกับพื้น และมีชายฉรรจ์หน้าตาอย่างกับโจรที่น่าจะเป็นยามจ้องมอง
“หึ งานนี้ได้เงินดีแน่” ร่างของชายฉกรรจ์พิจารณาก่อนร่างบางที่พึ่งโดนโยนเข้าห้องขัง
“สมแล้วที่เป็นที่ 1 ของโรงละครภายในเมือง หน้าตาก็สวย หุ่นก็ดี ช่างเป็นหญิงที่น่าขย่ำเสียจริง” มือของชายฉรรจ์เริ่มซุกซนลูบต้นขากับร่างบางที่ทำหน้าขยะแขยง ถอยหนีชายคนนั้น
“น่าขยะแขยง” ร่างบางพูดขึ้นมาเมื่อเห็นทีท่าของชายฉรรจ์จะไม่หยุดเพียงเท่านั้น
“แกว่าไงนะ!!” ชายฉรรจ์ถลนตาอย่างดุดันแต่มันไม่ทำให้ร่างบางรู้สึกกลัวเลยสักนิดเดียว
“น่าขยะแขยง” ร่างบางไม่กลัวหมัดที่ง้างเตรียมชกตนแถมจ้องกลับอย่างท้าทาย
“เอาสิ แต่ถ้าเจ้านายของเจ้าเห็นว่าข้ามีแผลอาจจะทำให้ราคาตก แล้วเจ้าที่มีหน้าที่เฝ้าข้าอาจจะซวยก็ได้นะ ใครจะไปรู้” ร่างบางแสยะยิ้มอย่างถือไผ่เหนือกว่า แต่ชายฉรรจ์ยังไม่ยอมลดหมัดลง
“นึกให้ดีสิ ความโหดร้ายของเจ้านายแกน่ะ!!!” ร่างบางพูดเสริมไปอีกรอบ เพราะด้วยความโหดร้ายที่เลื่องลือของเจ้าของตลาดทาสนั้น มันกว้างขวางจนชาวเมืองหลายต่อหลายเมืองรู้จักกัน
“หึ ถือว่าครั้งนี้เจ้ารอดไป เพราะโชคช่วยล่ะ” ชายฉรรจ์จากไปดดยไม่ลืมใส่โซ่ตรวนให้กับล็อคประตูและใส่แม่กุญแจ
“ข้าช่วยตัวเองต่างหาก เจ้าโง่” ร่างบางได้แต่คิดในใจเท่านั้น ก่อนมองสำรวจตัวเองตอนนี้ตนอยู่ในชุดประโปรงสีแดงยาวเพียงเข่าแถมยังรัดเฉพาะที่เอว คอทรงแหลี่ยม มีผ้าโยงเชื่อมแขนทั้งสองข้างและพร้อมไว้ด้านหลัง ยังมีปอกคอระบายเพื่อปิดห่วงสีทองที่ทำให้ตนเป็นมนุษย์ ร่างกายมีเพียงรอยถลอกเล็กน้อยมีเพียงส่วนหัวเท่านั้นที่น่าจะหนักกว่าส่วนอื่น มีคราบเลือดแห้งหลังใบหู ที่มือกับเท้ามีโซ่ตรวนล่ามไว้
“โดนจับอีกล่ะ แต่เบามือไม่เป็นหรือไงนะ” ร่างบางสบถ ก่อนจะสำรวจห้องขัง มันเป็นห้องขังที่ใหญ่มาก มันมากพอที่จะขังได้ 7-10 คน และมีห้องขังต่อเรียงตลอดแนวประมาณ 10 ได้ ในแต่ล่ะห้องมีคนและสัตว์แปลกมาขังมากมาย ถ้าเป็นคนส่วนมากจะเป็นผู้หญิงสักมาก ถ้าผู้ชายล่ะก็ไม่หน้าสวยมากก็พวกกล้ามเป็นมัดๆล่ะนะ ส่วนสัตว์นั้นจะเป็นพวกสัตว์ในหิมพานต์มีทุกประเภทแม้แต่ลิงมีปีกยังมีอ่า!!!!!
“มนุษย์ความต้องการช่างไม่จบไม่สิ้นจริงๆ” ร่างบางพึมพำก่อนจะพยายามหาทางออกจากที่แห่งนี้ เริ่มจากที่ประตูแต่ต้องสิ้นหวังเพราะมีแม่กุญแจดอกใหญ่อยู่ที่พื้นเป็นพื้นอิฐมีเพียงช่องลมเล็กๆเท่านั้น
“เฮ้อ ถ้าข้าเป็นยักษ์คงสบายกว่านี้” ร่างบางถอนหายใจก่อนจะนั่งคิดแผนใหม่แต่ไม่พอที่ร่างบางจะคิดแผนออกมีชายหนวกแพะเดินเข้ามามองด้วยสายที่เดาได้เลยว่าเป็นเจ้าของตลาดค้าทาส เพราะมันมีคำว่าเงินเต็มๆตาน่ะสิ!!!!!!!!!
“หึ สาวน้อย เจ้าชื่ออะไร”
“บะ.บุษบา”
“ดี พวกเจ้าช่วยเอานางออกมาที” มียาม 2 คน เข้ามาจับร่างบางออกมาในระหว่างทีออกมานั้นร่างบางอาศัยจังหวะที่ยามนั้นเผลอถีบยามพวกนั้นก่อนจะวิ่งออกบวกกับตนมีวิชาป้องกันตนเองอยู่จึงในระหว่างที่จะเจ้าของตลาดทาสจับได้จึงเตะสวนเข้าให้ที่กล่องดวงใจน้อยๆนั้นจนคนโดนเตะลงไปนั่งคุกเข่ายอมแพ้พ่ายไป
“จับนางไว้!!!!!!!”
“แฮ่กๆ” ร่างบางวิ่งหนีตลอดทางจนใกล้ถึงประตูทางออกแต่ต้องหยุดลงเมื่อร่างบางโดนชายฉรรจ์ทั้ง 4 คน กดให้ร่างบางนอนอยู่กับพื้น
“นางตัวแสบ ข้าจะขายเจ้าดีๆ แต่ถ้าเป็นอย่างนี้เจ้าคงต้องเจอดีแล้วล่ะ พวกเจ้าเอาตัวนางมาใกล้ๆข้า เร็ว!!!” เจ้าหนวดแพะที่เดินตามมาก่อนจะสั่งลูกน้องจับร่างบางคุกเข่าลงตรงหน้าตนก่อนจะกลอกยาบางอย่างร่างบางพยายามปิดปากไม่รับแต่ก็โดนบีบปากจนต้องรับยาประหลาดเข้ามา
“ต่อจากนี้เจ้าไม่สามารสต่อต้านข้าได้อีกแล้วแม่บุษบา...” เจ้าหนวดแพะควักมีดออกมาฟันเสื้อผ้าของร่างบางที่กระโปรงและเสื้อแถวหน้าท้อง ทำให้เผยท่อนขาและหน้าท้องเนียน
“เจ้าเอายาอะไรให้ข้ากิน” ร่างบางจ้องไอ้หนวดแพะอย่างเอาเป็นเอาตาย
“มันก็แค่ยาสะกดจิตเท่านั้นเอง”
“อ๊ากกกกกกกก!!!....” หลังสิ้นเสียงร่างกายเกิดร้อนอย่างฉับพลันความทรงจำในอดีตตั้งแต่ที่ตนนั้นเป็น ยักษ์ที่ชื่อ นนทก พุดขึ้นมาในหัวอย่างรวดเร็วอาการปวดหัวแล่นเข้าหาร่าบางโดนพลัน
“อ๊ากกกกกก..หยุด..พอ..พอสักที!!” ความทรงจำเรื่อง ความสุข ความเจ็บปวด ความเศร้า ความรัก ทุกอย่างสับสนปนเปไปหมด แต่ทุกๆครั้งความทรงจำจะค่อยเลือนหายไปที่ละอย่าง มีเพียงอย่างเดียวที่ร่างบางลืมเลือนเป็นอย่างสุดท้าย
“รามจันทร์...ช่วยข้า..ด้วย..” ร่างบางพูดจบทุกอย่างพลันมืดสนิท
[ทางด้านพระราม]
“ทศกัณฐ์ อดทนไว้นะ ข้าจะไปช่วยเจ้า” ร่างสูงตอนนี้เริ่มสังหรณ์ใจพยายามเร่งฝีเท้าตามหาตลาดมืด
ย้อนกลับไปสักนิด
“ทหารพวกเจ้าช่วยเตรียมทองให้ข้าด้วย เอามาเยอะๆเลยนะ”
“ท่านพี่ๆ ข้าว่าไม่ต้องเอาทองไปก็ได้นะ ชิงตัวมาก็จบ” เด็กน้อยตรีเศียรพูดออกอย่างไม่ได้คิด
อะไรแค่กลับทำให้คนอื่นๆอมยิ้ม
“ฮ่าๆ เจ้าช่างเหมือนพ่อของเจ้าจริงๆ” ร่างสูงขยี้หัวเด็กน้อย
“ท่านแม่ ต่างหาก!!!” เด็กน้อยทำหน้ามุ่ย
“งั้นแล้วพ่อเจ้าล่ะ เด็กน้อย” หญิงสาวเดินเข้าไปลูบหัวอย่างเอ็นดูทั้งสองคนถามเด็กน้อยไป
และรอทองคำที่ตนสั่งไว้ไปด้วย
“ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้จักท่านพ่อของข้าหรอก”
“หรือเจ้าเป็นบุตรบุญธรรม”
“ลูกแท้ๆ เนี่ยล่ะ ทั้งข้าและท่านพี่เป็นลูกแท้ๆของท่านแม่”
“แต่พ่อของเจ้าเป็นบุรุษนะ” ร่างสูงกลุ้มคิดแต่นิดไม่ออกจะหันไปมองอินทรชิตที่ตอนนี้มีวานรเผือกให้กำลังใจในเรื่องที่ร่างสูงไม่เข้าใจ
“เจ้าบอกความจริงไปเถอะ มันถึงเวลาแล้ว อินทรชิต” วานรบีบไหล่เล็กน้อยเพื่อให้กำลังใจ
“อื้ม องค์ราม พ่อของเด็กคนนี้คือ ท่านไงล่ะ” อินทรชิตพูดด้วยเสียงเรียบเฉย
“ตระกูลเราได้กล่าวไว้ว่าหากยักษ์บุรุษตนใด โดนกระทำดังสตรีจะสามารสตั้งครรภ์ได้” อินทรชิตได้กล่าวต่อโดนไม่สนอาการตะลึงระคมตกใจของร่างสูงของเจ้าเมืองอโยธยา ไว้เว้นแต่สีดา และเด็กน้อยตรีเศียร
“ท่านพี่ ท่านโปรดข้าทีว่านี่......คือความจริง” เด็กน้อยชี้นิ้วไปที่คนที่ได้ชื่อว่าพ่อ และพูดอย่างไม่เชื่อ
“ใช่ เจ้าฟังไม่ผิดหรอกตรีเศียร” อินทรชิตหลับตาอย่างจนใจ
“ดี..ดีเลย” เด็กน้อยเดินไปข้าผู้เป็นพ่อที่ยังยืนอึ้งอยู่ก่อนจะเตะเข้าที่ขา
“นี่คือ ส่วนที่ท่านทำให้ท่านแม่เศร้า” เด็กน้อยไม่หยุดเท่านั้นยังเตะซ้ำอีก
“และนี่คือ ส่วนที่เมินเฉยเรา ยังไม่หมดหรอก” ร่างสูงของผู้เป็นพ่อปล่อยให้เด็กน้อยทำตามใจชอบจนอินทรชิต สีดา และหนุมานต้องมาจับตัวไว้
“พอเถอะ ตรีเศียร ตอนนี้เราต้องไปช่วยท่านแม่ก่อนนะ”
“ปล่อยเค้าเถอะ มันคือสิ่งที่ข้าควรได้รับแล้ว”
“หึ งั้นข้าขออีกทีหนึ่ง” เด็กน้อยเตะซ้ำไปที่ขาอีกทีหนึ่ง
“อันนี้น่ะ ความหมั่นไส้ส่วนตัว!!!”
“แล้วลูกจะให้อภัยพ่อได้หรือยังล่ะ ตรีเศียร” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า
“ไม่!!! แต่ถ้าท่านพ่อช่วยท่านแม่ออกมาได้ข้าจะพิจารณาอีกที!!” เด็กน้อยตอบหน้ามุ่ย
“ฮ่าๆ..” ทุกคนหัวเราะกับนิสัยที่เหมือนจะแกะกันออกมาของเด็กน้อย
“ได้ข้าสัญญา”
“องค์รามขอรับ ทหารเตรียมทองเรียบร้อยและขอรับ” วานรเผือกรายงาน
“ดี หนุมานเจ้าช่วยขยายร่างและเหาะไปเร็ว”
“ขอรับ” ร่างของวานรขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยจนมีขนาดเท่ากับช้าง 4 ตัว
“ลูกตรี อินทรชิตมาสิ” ร่างสูงชวนแต่สิ่งที่ได้รับคือการส่ายหน้า
“ไม่ล่ะ ท่านไปกับก่อนเถอะ เดี๋ยวพวกข้าจะเหาะตามไป”
“เจ้าเหาะได้??”
“ข้าไม่ได้โดนผนึกอิทธิฤทธิ์สักหน่อย” อินทรชิตยิ้มก่อนจะกลับร่างเดิมของตน กลายเป็นยักษ์กายสีเขียวมรกตร่างกายไม่ถือกับบอบบางมากนั้นผมยังคงสั้นเช่นเดิมมีเขี้ยวมะลิงอกออกมา
“ข้าเป็นลูกครึ่งยักษ์อยู่แล้ว ข้าย่อมเหาะได้” เด็กน้อยพูดด้วยท่าทางชิวๆ
“องค์ราม พวกเข้าจะไปสืบข่าวในเมืองโรมพัตตันก่อน” ไม่ว่าเปล่าก่อนทั้งสองเหาะนำหน้าไปก่อน
“เราก็ไปกันเถอะ”
กลับมาที่ปัจจุบัน
“ท่านพ่อ!!!” เสียงของเด็กน้อยตรีเศียรดังมาแต่ไกล
“แฮ่กๆ พวกเรารู้ที่อยู่ของท่านแม่แล้ว ตลาดทาสอยู่ทางด้านตะวันออกของเมืองจะเปิดในอีก 1
ชม. และท่านแม่จะโดนประมูลในครั้งนี้ด้วย
“ดี เราจะช่วยทศกัณฐ์ เจ้าพร้อมไม ลูกรัก”
“หึ พร้อมตั้งแต่อยู่ที่เมืองของท่านพ่อล่ะ”
“หึ สมเป็นลูกของข้าจริงๆ” ร่างสูงเดินเข้าไปยังตลาดทาสโดยมีอินทรชิตและเด็กอีกคนหนึ่งที่
หน้าตาเหมือนกับตรีเศียรรออยู่ที่หน้าประตู ตลาดทาสมองด้านนอกเหมือนกับอาคารธรรมดาๆ
“ยินดีต้อนรับค่ะ ท่านได้จองไว้หรือเปล่าค่ะ” ร่างสูงที่กำลังมองสำรวจสถานที่อยู่ ด้านในมีเก้าอี้เรียงรายอยู่ด้านหน้ามีเวทีขนาดใหญ่แต่มีม่านปิดกั้นอยู่ (ที่นั่งประมาณโรงหนังอ่ะ//โดนเตะ)
“เปล่า เราพึ่งมาเป็นครั้งแรกน่ะ”
“งั้นเชิญที่นั่งธรรมดานะค่ะ” พนักนางสาวนำทางไปด้านท้ายๆ
“มีอะไรเรียกได้นะค่ะ อีกไม่นานการประมูลจะเริ่มขึ้นนะค่ะ”
“อื้ม ขอบใจมาก” ร่างสูงกวาดตาไปเรื่อยๆพบเจ้าเมืองที่เค้ารู้จักหลายคนแต่มีเสียงหนึ่งทำให้
ร่างสูงหยุดความสนใจนั้นลง
“ลูกค้าทุกท่าน วันเราได้สินค้าน่าสนใจและ ผมคิดว่าคงถูกใจใครหลายท่าน แต่เราจะเก็บไว้ในท้ายสุดของวันนี้ งั้นเริ่มจากสินค้าชิ้นแรกเอาแบบเบาๆกันก่อน........” เสียงเกือบทุกลอยผ่านร่างสูงไป ทุกคนจดจ้องเพียงว่าเมื่อไรคนสำคัญของพวกเขาจะออกมา
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“เอาล่ะ เรามาถึงสิ่งที่ใครหลายคนรอมานาน สินค้าที่โดดเด่นที่สุดในงาน ผมจะให้ชื่อว่า ดอกไม้ที่ร่วงโรย” สิ้นคำประกายแสงไฟสาดส่องไปยังจุดๆเดียวกัน ปรากฏร่างร่างหนึ่งกำลังนั่งที่เก้าอี้ไม้ร่างนั้นมีผมสีดำยาวสลวย หน้าทรงคมติดหวาน ปากเป็นกระจับสวยงามกำลังสวมชุดกระโปรงสีแดงมีรอยขาดวิ้นที่กระโปรงและหน้าท้องและที่หน้าท้องมันยาวจนเกือบถึงหน้าอก ทำให้เผยผิวกายที่ขาวอมชมพูเนียน ที่ขาและแขนมีโซ่ตรวนอยู่ แต่ที่น่าแปลกดวงตาที่บัดนี้มิใช่สีดำสนิทกลับเป็นดวงตาจระเข้ดังเดิมแต่มันกลับไร้ชีวิตและกำลังเหม่อมองอย่างไร้จุดหมาย
“หึหึ สินค้าตัวเราจะเริ่มประมูลจากราคา 900 ทองคำ เริ่มการประมูลได้” (ทองคำ 1 แท่ง = 1 ทองคำ)
“950 ทองคำ”
“1000 ทองคำ”
“3500 ทองคำ” ร่างสูงประกาศก้องทั่วตลาดทาสผู้คนต่างจ้องมองร่างสูงเป็นสายตาเดียวกัน
“4000 ทองคำ” ถึงร่างสูงจะประกาศออกไปอย่างนั้นแต่ยังมีคนที่จะสู้ต่อ ทำให้เจ้าหนวดแพะตาว้าววิ้งๆกับจำนวนทองมหาศาล
‘ถึงยังมีคนสู้แต่ก็น้อยลงไปมากแล้ว’ ร่างสูงมองไปรอบๆ ก่อนจะพูดออกมาอย่างชัดเจน
“8000 ทองคำ เจ้าของตลาดจะขายหรือไม่ขาย หากไม่ขายแล้วข้าจะกลับ”
“ขายขอรับ ขาย” เจ้าของตลาดทาสพยักหน้าพร้อมกับตาที่วิ้งๆกับทองคำที่ตนไม่เคยได้มากขนาดนี้มาก่อน
“หนุมานเจ้าช่วยเอาทองคำไปให้เจ้าหนวดแพะไป”
“ขอรับ” วานรแบกเอาหีบไปกับอินทรชิตกันสองคน
.
.
.
ในขณะที่รับตัวทศกัณฐ์จาเจ้าหนวดแพะนั้นร่างสูงได้สำรวจร่างกายร่างบาง
“เจ้าทำอะไรกับนางกัน ทำไมดวงตาช่างไร้ชีวิตเช่นนี้” ร่างสูงจ้องเจ้าหนวดแพะเขม้น
“ข้าแค่ทำให้นางสงบลงเท่านั้น”
“เจ้ามีทางแก้ไม”
“ยานี้ขอรับ ข้าจะแถมให้ฟรีๆเลยล่ะกัน แต่ท่านต้องระวังไว้นะ นางน่ะพยศจะตาย” ร่างสูงกลอกยาให้ร่างบาง
“หึ งั้นข้าขอรับนางไปล่ะกัน พยศเช่นนี้ข้าสยบมาแล้ว” ร่างสูงพูทิ้งไว้เท่านั้นก่อนจะอุ้มร่างบางในท่าเจ้าหญิงไปสมทบกับทุกคนก่อนจะให้หนุมานพากลับเมือง
.........................................................................................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น