ตอนที่ 1
ย้อนไปเมื่อสามวันก่อน
[พระราม-part]
วันนี้คือวันที่จะตัดสินแล้วสินะ
"ทศกัณฐ์ วันนี้ข้าจะมาทวงนางสีดาของข้าคืน!!" ร่างมรกต สง่า สั่งชี้สั่งกองทัพวานรไปโรมรันศัตรู ก่อนจะแผลงคันศร เตรียมยิงศัตรูที่ลักพาตัวภริยาตน แต่กลับต้องชะงักเมื่อศัตรูคู่อาฆาตนั้นแม้ตนจะเคยพบทศกัณฐ์มาหลายครั้งแต่ครั้งนี้กลับงดงามกว่าครั้งไหนๆ แม้เทวดาหรือนางอัปสรก้ไม่อาจเทียบเคียงได้ ผมดำยาวสลวยที่ทุกครั้งที่พบจะรวบมัดเกล้าแต่บัดนี้ได้ปล่อยยาวสลวยลงมาถึงสะโพกที่ได้รูปกับเอวที่ค่อนแต่ไม่ถึงกับค่อนอย่างสตรีแต่หากเทียบกับบุรุษมันโค้งแลดูบอบบางหน้าถนุถนอม กายสีเขียวมรกตทีรับกับหน้าคมที่ติดหวาน ดวงตาจระเข้ที่คมรับกับสีกายเป้นอย่างดี ถึงแม้ว่าทศกัณฐ์จะสูงกว่าตนแต่รูปร่างนั้นกลับบอบบางเสียจนถ้าทำอะไรรุนแรงเกินไปเอวนั้นอาจจะหักได้ทุกเมื่อ แล้วความคิดก็หยุดลงเมื่ออีกฝ่ายลั่นศรออกไป แต่ศรของพญารากษก กลับกลายเป็นตอกดอกไม้หอม เจ้าตัวที่แผลงศรออกมาก็ทำหน้าที่เขาเองก็ไม่เคยเห็นจากยักษ์ที่ชื่อว่าทศกัณฐ์ แล้วก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาว่า
"ทศกัณฐ์นั้นน่าสนใจดีเหมือนกันนะ น่าเก็บไว้ดูเล่นจริงๆ"เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ลดคันศรลงและเอ่ยกับทหารเอกของตน
"หนุมานเจ้าจงไปหาพระฤาษีโคดมอาจารย์ของทศกัณฐ์แล้วถามว่ามีคาถาที่ทำให้ยักษ์สิ้นฤทธิ์ได้หรือไม่"
ทหารเอกลอบยิ้มกรุ่มกริ่ม รู้แนวแผนร้ายของนายตน ก่อนจะขานรับอย่างขยันขันแข็ง
"พ่ะย่ะค่ะ" เมื่อหนุมานทหารเอกรับคำแล้วจึงเหาะไป
"พ่ะย่ะค่ะ" เมื่อหนุมานทหารเอกรับคำแล้วจึงเหาะไป
"ทศกัณฐ์ ข้าจะทำให้เจ้าเป็นของข้าไม่ว่าจะเป็นกาย หัวใจหรือทุกๆอย่างต้องเป็นของข้า" พูดพึมพำก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
[ทศกัณฐ์-prat]
'ครั้งนี้คือศึกสุดท้ายทหารฝ่ายเรากำลังสิ้นหวังและหวาดกลัวแต่เพราะศักดิ์ศรีของวงศ์ยักษ์ เราจะไม่ถอยเด็ดขาด!! ถึงแม้ว่ากล่องดวงใจของเราจะอยู่ในกำมือขององค์ราม
“เจ้าลิงเผือกแกใช้กลอะไรหลอกลวงอาจารย์ของข้ากัน” แต่ว่าต้องหยุดความคิดเหล่านั้นเมื่อเห็นทัพขององค์รามอยู่ด้านหน้าก่อนจะสั่งทัพเข้าโรมรันกับทัพขององค์ราม
"ทหารโจนตี ทัพหน้าเข้าประชิด!!" เมื่อคำสั่งไปแต่ว่าทหารบางนายที่หวาดกลัวก็ได้หนี ซ่อนตัว หรือไม่ก็หลบที่ศพของช้าง เมื่อทศกัณฐ์เห็นดังนั้นก็จ้องไปที่พระรามอย่างอาฆาต
"ชิ! น่าหมั่นไส้จริงๆ จะง้างคันศรอีกนานไม แต่ก็เป็นโอกาศของเราล่ะนะ" ไม่ว่าเปล่าตนได้แผลงตรงไปที่พระรามแต่ว่าศรนั้นกลับกลายเป็นดอกไม้...
"เป็นไปไม่ได้..." เจ้าของผู้ที่แผลงศรได้หันหน้าหนีด้วยความที่อายกับความอัปยศแต่ว่านั้นไม่ทำให้ความทิฐิลดลงแต่อย่างได้ได้ตั้งคันศรใหม่และแผลงศรใหม่อีกครั้งแต่ต้องชะงักเมื่อพระรามได้สั่งบางอย่างกับเจ้าลิงเผือกทหารเอกก่อนจะหันมามองตนและยิ้มอย่างมีเลห์กลอะไรสักอย่าง
"เจ้ามนุษย์นั้นคิดจะทำอะไรน่ะ"บ่นพึมพำแต่มาก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็ขับรถศึกเข้ามาหาตนอย่างรวดเร็ว
"มันต้องวางแผนอะไรแน่ๆ"ไม่ว่าเปล่าก็เหาะขึ้นไปบนฟ้าเพื่อดูสถานการณ์แต่ต้องเบิกตากว้างเมื่อเจ้าลิงเผือกเหาะมาด้านหลังแล้วปาเจ้าสิ่งที่เหมือนกับห่วงสีทองมาที่คอแล้วร่างกายก็พลัดร้อนขึ้นมาเหมือนร่างกายจะหลอมละลายสติค่อยๆเลือนรางทรงตัวไม่ได้แล้วสุดท้ายทุกอย่างก็ดำสนิทพร้อมกับร่างที่ตกลงสู่พื้นดิน
[พระราม-part]
"ตุบ!!" "เฮ้อ คิดว่าจะรับไม่ทันซะล่ะหึๆ"พูดพร้อมกับร่างในอ้อมกอดของคนที่พึงตกมาจากฟ้า
"พระรามท่านจะทำยังไงกับเจ้ายักษ์นี่ขอรับ"
"ข้าจะจับเจ้ายักษ์นี่ไปเป็นเชลย"พูดพร้อมกับจ้องหน้าหวานที่ตอนนี้สลบอยู่ในอ้อมกอดของตน
"เตรียมเกวียนเชลยมาเราจะพาภรรยาและเจ้ายักษ์กลับเมือง"พร้อมกับกอดคนในอ้อมแขนไว้แล้วให้ทหารเอกของตนไปรับภรรยาของออกมาจากวังของทศกัณฐ์และมุ่งหน้ากลับเมืองอโยธยา
ระหว่างเดินทางกลับเมืองอโธยา
[ทศกัณฐ์-part]
"กุ๊กกั๊กๆๆ" "อื้ม นี่เรายังไม่ตายหรอ"เมื่อฟื้นขึ้นมาก็เริ่มบ่นพึมพำก่อนจะมองไปรอบๆก่อนจะพบตัวเองมีโซ่ตรวนล่ามไว้และที่คอมีสิ่งที่เหมือนกับห่วงแต่ว่ามันกลับมีลวดลายที่วิจิตรงดงามเพียงแต่ว่าที่ร่างกายกลับมีแค่เสื้อเพียงตัวเดียวปกปิดร่างกาย
"ท่านแม่ทัพ เชลยฟื้นแล้วขอรับ"
'เชลยหรอ...' คนที่คิดว่าตนโดยกล่าวได้แต่ทำหน้างง
"ไง ทศกัณฐ์"เสียงที่คุ้นเคยกล่าวขึ้น
"เจ้า!! เจ้าทำอะไรกับข้าน่ะ แล้วจะพาข้าไปที่ไหนกัน!!"
"โอ้ๆ ใจเย็นๆสิ ตอนนี้มีฐานะเป็นเชลยของข้านะ ทศกัณฐ์"
"เชลย งั้นหรอ หึ เจ้าคิดว่าโซ่ตรวนแค่จะจับได้งั้นหรอ ปัญญาอ่อน!!"ไม่รอช้าจ้องโซ่ตรวนจะใช้อิทธิฤทธิ์แต่ว่า
"ทำไมใช้เวทย์ไม่ได้ล่ะ.."
"หึๆ เจ้าโดนคาถาทำให้อิทธิฤทธิ์หายไปและมีพลังกำลังเท่ามนุษย์ทั่วไป"พูดไปพร้อมกับยิ้มหวานให้กับยักษ์ที่ตอนนี้หน้าซีดเผือก
"แก๊!!! เจ้าต้องการอะไรกันแน่!!!"
"หึๆ ถ้าเจ้าอยากข้าก็จะบอกให้ ข้าน่ะต้องการร่างกายและทุกๆอย่างของเจ้าไงล่ะ ทศกัณฐ์"
"เจ้ามนุษย์!!!" ไม่ว่าเปล่าพร้อมกับกระลูกกรงและถลนตาอย่างเคียดแค้น
"5555 งั้นข้าของรับสิ่งนี้ก่อนล่ะกัน"
"อะไร อุ้บ!!" ทศกัณฐ์ถึงกับตะลึงกับสิ่งที่ไม่คาดคิดคือตอนนี่ริมฝีปากของตนนั้นโดนช่วงชิงไปแล้วโดนคนที่ไม่คาดคิดกว่าตนจะรู้ตัวคือตอนที่อีกฝ่ายล่วงล้ำเข้ามาในโพรงปากของตน
"อื้ม อื้อ ออกไปนะ!!"คนถูกจู่โจมตั้งสติก่อนจะผลักอีกฝ่ายออกไป
"หึๆ อะไรกันปากเจ้าหวานกว่าที่ข้าคิดไว้ซะอีกนะ"
"เจ้ามัน....ฉวยโอกาส" คนถูกจู่โจมว่าไปพร้อมกับหน้าที่แดงจัดแต่ว่าคนที่จู่โจมกับหัวเราะชอบใจปล่อยให้คน
"ใช่ข้าเป็นคนฉวยโอกาศ"พูดจบแล้วก็จุมพิตอีกครั้งพร้อมกับเลียริมฝีปากอีกฝ่ายอย่างหยอกเล่น
"เจ้าๆๆ มัน!!...."เจ้าตัวรีบถอยหนีก่อนจะพูดความโมโหแต่ว่าสีหน้านั้นไม่แน่ว่าจะโกรธหรืออายกันแน่
“อะไรกัน จะด่าก็ด่าออกมาสิแต่เจ้าจงรู้ไว้ว่าเจ้าคือ ‘เชลย’ ของข้า อีกอย่างเจ้าไม่ต้องกังวลหรอกเพราะระวังทางข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก”
“ถะ.ถ้าเจ้าไม่ทำอะไร แต่ข้าขอกางเกงหรือไม่ก็ผ้าโจงกระเบนได้หรือไม่ มะ.มันหนาวน่ะ”พูดพร้อมกับพยายามดึงให้เสื้อมันยาวลงมาเพื่อปิดส่วนสงวน
“หือ ได้สิ” เมื่อเสร็จจึงลอบมองอีกฝ่ายที่ทำหน้าเหมือนแมวที่กำลังจะได้ก้อนไหมพรมจึงนึกอยากแกล้งยักษ์ตรงหน้าของตน
“แต่หลังจากถึงเมืองอโยธยาน่ะนะ ทศกัณฐ์ ฮ่าๆๆๆ”เมื่อกล่าวเสร็จจึงเดินออกมาปล่อยให้ยักษ์ในเกวียนเชลยโวยวายเป็นการใหญ่
ชอบอะเรื่องนี้คือดีมากกก😍😍
ตอบลบดี
ตอบลบ